ไบรจ์ตัน เผยผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2022-23 ทำกำไรภายหลังหักภาษี 122.8 ล้านปอนด์ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ ลีกตัวเลขถูกเผยแพร่วันอังคารที่ผ่านมา ไม่นับการปล่อย โรเบิร์ต ซานเชซ กับ มอยเซส ไคเซโด้ ให้ เชลซี ซึ่งเกิดหลังเส้นตายยื่นงบ โดยสื่อรายงาน ค่าตัวรวมแอดออนทั้งคู่อยู่ที่ 140 ล้านปอนด์
จำนวนดังกล่าว รวมดีลซึ่งเกิดเมื่อตลาดซัมเมอร์ 2 ปีก่อนอย่าง อีฟส์ บิสซูม่า ไป ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, มาร์ค คูคูเรญ่า ไป เชลซี รวมถึงค่าชดเชย แกรห์ม พอตเตอร์ จำนวน 21.5 ล้านปอนด์จาก "สิงห์บลูส์"
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ถูก ลิเวอร์พูล จ่ายค่าฉีก 35 ล้านปอนด์ดึงร่วมทีม เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ปรากฎอยู่ในผลประกอบการรอบนี้ด้วยเช่นกัน
สถิติมากสุดของ พรีเมียร์ ลีก ซึ่ง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทำกำไร 113 ล้านปอนด์ ฤดูกาล 2017-18 ถูกแซงเรียบร้อย แต่ระดับโลก บาร์เซโลน่า ยังรักษาตำแหน่ง จากการใช้คันโยกทางเศรฐกิจ จนได้ราว 300 ล้านปอนด์ซีซั่นก่อน
นอกจากทำกำไรเพิ่มจากปีงบประมาณก่อนเกือบ 100 ล้านปอนด์แล้ว ผลงานในสนาม "นกนางนวล" ภายใต้การคุม โรเบร์โต้ เด เซร์บี้ ยังทำอันดับได้ไป ยูโรป้า ลีก ด้วยการจบอันดับ 6
"แน่นอนเลยว่าการเผยบัญชีรอบนี้ จะได้รับการจับตามองจากเรื่องจำนวนเงิน" พอล บาร์เบอร์ ซีอีโอ ไบรจ์ตัน ให้สัมภาษณ์ พร้อมต่อสัญญาใหม่ถึง 2030
"ในฤดูกาลที่เราได้สร้างประวัติศาสตร์ในสนาม ยังมีก้าวที่สำคัญในแง่ของความมั่นคงระยะยาว โดยลดการพึ่งพาทุนของ โทนี่ บลูม (เจ้าของสโมสร)"
"มันยังเป็นครั้งแรกที่เราสามารถใช้เงินคืนแก่ บลูม เพื่อชำระหนี้ซึ่งเขากู้มาซื้อสโมสรตั้งแต่ปี 2007 และทำให้ตอนนี้ยอดดังกล่าวลดจาก 406.5 ล้านปอนด์ เหลือ 373.3 ล้านปอนด์"