หลุยส์ ซัวเรซกองหน้าฟันไม่เข้าของบาร์เซโลน่าชี้ว่าเกมเอล กลาซิโก้เจอกับเรอัล มาดริดครั้งนี้จะยังเข้มข้นเหมือนที่ผ่านมา ถึงแม้ไม่มีทั้งลิโอเนล เมสซี่และคริสติอาโน่ โรนัลโด้บาร์เซโลน่าจะลงสนามเกมนัดนี้โดยเป็นจ่าฝูงมีแต้มเหนือกว่าอลาเบสและเอสปันญ่ลออยู่คะแนนนึง ถึงแม้เก็บชัยชนะได้เพียงแค่นัดเดียวจาก 5 เกมลีกหลังสุด
พวกเขาจะไม่มีเมสซี่ด้วยหลังบาดเจ็บที่แขนมาจากเกมเอาชนะเซบีญ่า ส่วนโรนัลโด้ย้ายออกจากมาดริดไปแล้วทำให้นี่จะเป็นเอล กลาซิโก้หนแรกนับตั้งแต่ปี 2007 ที่ไม่มีใครคนใดคนนึงลงสนามเลย
อย่างไรก็ตามซัวเรซเชื่อว่าเอล กลาซิโก้รอบนี้จะยังมีความเข้มข้นไม่แพ้นัดที่ผ่านมาๆ ซึ่งหาก"ต่างดาว"เก็บชัยชนะได้ก็จะทิ้งห่างมาดริดเพิ่มเป็น 7 แต้ม
"เอล กลาซิโอคือเอล กลาซิโออยู่เสมอ"ซัวเรซกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์สโมสร
"ดูเอล กลาซิโอเมื่อปีก่อนสิ เราแทบจะเป็นแชมป์แล้วแต่ความเข้มข้นก็ยังเหมือนกับกลาซิโก้นัดอื่นๆ มันเป็นแบบนั้นล่ะ คุณต้องพร้อมสู้อยู่เสมอ"
"คุณดูผลงานล่าสุดของแต่ละทีมแต่กลาซิโก้ก็คือกลาซิโก้และไม่มีใครคิดถึงอารมณ์ของอีกทีม หรือคิดว่าพวกเขาเล่นดีขึ้นหรือแย่ลง"
มาดริดเสมอมา 1 นัดและแพ้ไปถึง 3 นัดจาก 4 เกมลีกหลังสุดรวมถึงความพ่ายแพ้แบบช็อคๆต่ออลาเบสและเลบานเต้ด้วย โดยที่ฆูเลน โลเปเตกียังเก้าอี้ร้อนอยู่ถึงแม้ชนะวิคตอเรีย เปลเซ่นมาในกลางสัปดาห์
"พวกเขามีโค้ชใหม่และไม่ว่าคุณจะพูดอะไร โค้ชใหม่ก็ช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้กับนักเตะอยู่เสมอ"
"พวกเขาอยากแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยากลงเล่นและทำผลงานให้ดี"
"แต่แน่นอนว่าคุณต้องระวัง พวกเขามีคุณภาพ, มีนักเตะพรสวรรค์ที่สร้างความแตกต่างได้ แต่พวกเขาก็มีจุดอ่อนด้วยเหมือนกับทีมอื่น เราเองก็มีจุดอ่อนเหมือนกันและคู่แข่งจะพยายามเล่นงานที่จุดอ่อน"
โรนัลโด้ยิงในเกมเอล กลาซิโก้ไป 18 ประตูทำสถิติทาบตำนานของมาดริดอย่างอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ แต่ซัวเรซก็ก็ชี้ว่ามาดริดยังมีนักเตะคนอื่นที่สร้างความแตกต่างได้
"ทุกคนรู้ว่าเขาเก่งขนาดไหนแต่ทีมเหนือกว่าชื่อของนักเตะแค่คนเดียว"
"เพราะงั้นพวกเขาถึงมีนักเตะในเรอัล มาดริดที่สร้างความแตกต่างได้ แต่เราต้องเล่นตามเกมของเรา, เล่นตามไสตล์เราและไม่ต้องกังวลว่าฝั่งตรงข้ามจะส่งใครลงสนาม ในกรณีนี้ก็คือมาดริดที่ไม่มีโรนัลโด้"