จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์ตัววินวอล์คของลิเวอร์พูล ออกมาบอกว่าเขาต้องการที่จะยิงประตูให้กับทีม หลังจากยังไม่สามารถส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้เลยนับแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแม้จะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์แต่ฤดูกาลที่แล้วกองกลางชาวฮอลแลนด์ซัดให้กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดไปถึง 11 ประตูในพรีเมียร์ลีก
ทว่าหลังจากย้ายมาร่วมถิ่นแอนฟิลด์ในฤดูกาลนี้ดูเหมือนเขายังไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าจะทำอย่างอย่างที่ผ่านมา ซึ่งเขายอมรับว่าต้องการจะยิงประตูให้ได้โดยไว แต่ยังมองว่าผลการแข่งของทีมนั้นเป็นสำคัญที่สุด
"คือมันเคยชินกับการทำประตูไง" เขาบอกกับเว็บไซต์สโมสรก่อนที่จะบุกไปเจอกับเชลซีในคืนวันศุกร์นี้
"ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมยิงประตูได้มากมายในตำแหน่งมิดฟิลด์ แล้วพอคุณรู้สึกชินแบบนั้นแล้ว คุณก็อยากจะยิงให้ได้เสมอแหละ"
"คุณจะกระหายและโลภที่จะยิงประตูเยอะๆ ซึ่งนั่นแหละคือผมในตอนนี้"
"แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมจะช่วยทีมได้ยังไงมากกว่า ซึ่งหากเป็นการแอสซิสต์ งั้นผมก็จะทำตามนั้น แน่นอนว่าผมอยากจะยิงประตูเพราะผมยิงได้มากมายกับหลายทีม และมันเป็นอะไรที่ผมสามารถทำได้"
"ผมกำลังตามหาประตูอยู่ เพราะถ้าคุณเคยชินกับการทำประตูคุณจะกระหายที่จะยิง และหวังที่จะทำให้ได้จากตำแหน่งมิดฟิลด์"
"แต่คุณต้องคิดด้วยว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม และทีมของผม"
"หลายเกมที่ผ่านมาเป็นการช่วยแอสซิสต์ แต่ผ่อนคลายและสบายๆนะ ผมเชื่อในคุณภาพของตัวเอง และผมรู้ว่าเดี๋ยวประตูมันก็มา แต่ทีมคือสิ่งที่สำคัญที่สุดและหากเราได้รับชัยชนะ สำหรับผมคือโอเคแล้ว"
นอกจากนี้ไวจ์นัลดุมยังพูดถึงแท็คติกของเยอร์เก้น คล็อปป์ที่สั่งให้ผู้เล่นเติมเกมรุกกันหลายคนราว 6-7 ในจังหวะที่ทีมกำลังบุก รวมถึงตัวเขาที่เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางด้วย
"กับหลายทีมที่ผมได้เล่นในฮอลแลนด์ เราไม่ได้บุกกันหลายคนแบบนั้นนะ"
"บางครั้งเรา(ลิเวอร์พูล)จะบุกกัน 6 หรือ 7 คน นั่นคือเยอะมากนะ ผมเคยเล่นแบบนั้นแค่กับพีเอสวีในฤดูกาลแรก"
"ปีถัดจากนั้นหรือก่อนหน้า จำนวนตัวที่เล่นเกมรุกจะน้อยกว่า มีแค่ 4 หรือบางทีก็ 5 คน แต่ไม่ใช่ 6 หรือ 7 คนแน่ๆ" เขาทิ้งท้าย
