รายงานจากอังกฤษระบุว่า สาเหตุที่ Chevrolet จะไม่ต่อสัญญาสปอนเซอร์คาดหน้าอกกับทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเพราะพวกเขามองว่าจ่ายแพงเกินจริงไม่คุ้มกับผลงานในสนามของทีมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีรายงานว่า "ปีศาจแดง" กำลังอยู่ในช่วงเจรจากับสปอนเซอร์ใหม่ที่จะเข้าไปคาดหน้าอกเสื้อในปี 2021 หลังจากที่พวกเขาหมดสัญญากับ Chevrolet
Chevrolet บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกา ประกาศเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยวงเงินกว่า 410 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2012 สมัยที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังคุมทีม
จากนั้นโลโก้ของพวกเขาก็ไปปรากฎบนเสื้อแข่งของทีมดังแมนเชสเตอร์เมื่อปี 2014 ด้วยสัญญาที่ระบุไว้ 7 ฤดูกาล
นับตั้งแต่ที่ Chevrolet เข้าไปคาดหน้าอกให้ ผลงานของยูไนเต็ดก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ พวกเขายังไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ขณะที่แชมเปี้ยนส์ ลีกไม่ต้องพูดถึง ดูได้จากปีนี้ที่ไม่ได้ไปร่วมวงแข่ง
สถานการณ์ปัจจุบันในฤดูกาลนี้ภายใต้การคุมทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ พวกเขารั้งอันดับ 12 ของตารางพรีเมียร์ลีก ด้วยการมี 9 คะแนน จาก 8 นัด เป็นการออกสตาร์ทที่แย่ที่สุดของสโมสรในรอบ 30 ปี ดูแล้วคงใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะกลับไปต่อกรกับคู่แข่งได้
แหล่งข่าวในวงการรายหนึ่งบอกกับ เดลี่เมล ว่าผู้บริหารของ General Motors(GM) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Chevrolet ไม่พอใจอย่างมากกับผลงานของยูไนเต็ดตลอดช่วงเวลาที่ร่วมงานกัน
ดีลของทั้งสองฝ่ายจะหมดลงหลังจบฤดูกาลหน้า และเชื่อว่าดีลดังกล่าวไม่มีทางที่พวกเขาจะขยายต่อกับทางยูไนเต็ด
วงในรายหนึ่งกล่าวว่า "มันเป็นหายนะตั้งแต่เริ่มดีลเลย ความรู้สึกของคนภายในคือ Chevrolet จ่ายแพงเกินไปมาก และมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแล้ว"
ย้อนกลับไปตอนที่ทั้งสองฝ่ายดีลกันเมื่อปี 2012 โจเอล เอวานิค หัวหน้าฝ่ายการตลาดโลกของ GM ถูกปลดจากตำแหน่งในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงหลังจากมีการประกาศดีล
ในตอนนั้นมีรายงานว่าผู้บริหารของ GM โมโหทันทีเมื่อทราบว่าบริษัทจะต้องจ่ายแพงกว่าสปอนเซอร์ก่อนหน้าอย่าง AON เกินไปมาก
นอกจากนี้ยังมีการระบุว่า เอวานิค ล้มเหลวในการให้ข้อมูลรายละเอียดของดีลดังกล่าวกับทางผู้บริหารก่อนที่จะเซ็นสัญญาด้วย
ด้วยสัญญาดังกล่าว Chevrolet ต้องจ่ายให้ยูไนเต็ดราว 59 ล้านปอนด์ต่อปี มากกว่าที่ AON ต้องจ่าย 14 ล้านปอนด์ต่อปี และสปอนเซอร์ก่อนหน้านั้นอย่าง Vodafone ที่จ่ายราว 8 ล้านปอนด์ต่อปี
