ทัพอาซูลกรานาพลาดสามแต้มในคัมป์นูแบบไม่น่าเชื่อ หลังชะล่าใจดร็อป เมสซี และ ซัวเรซ เป็นแค่สำรอง จนโดนทีมน้องใหม่บุกมาขโมยชัยชนะได้ถึงถิ่นหลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือเจ้าบ้าน ตัดสินใจส่งสามผู้เล่นใหม่อย่าง แยสเปอร์ ซิลเลสเซน, ลูคัส ดีญ และ ปาโก้ อัลกาเซร์ ลงเล่นเป็นตัวจริงในลาลีกาให้ต้นสังกัดใหม่นัดแรก รวมถึงยังได้แนวรุกตัวเก่งอย่าง เนย์มาร์ กลับมาจากการรับใช้ทีมชาติบราซิลทั้งชุด U23 และชุดใหญ่อีกด้วย
ด้านทีมเยือนของ เมาริซิโอ เปเยกริโน ที่ยังไม่ชนะใคร แต่ก็ยังไม่แพ้ใครเช่นกัน จากการเสมอมาในสองนัดแรก เลือกจัดทัพมาเน้นเกมรับแบบเต็มสูบในระบบ 5-4-1 ทิ้งดาวยิงชาวบราซิเลียนอย่าง เดย์แวร์สัน ไว้เป็นกองหน้าตัวเป้าและความหวังในแนวรุก
เกมในช่วง 45 นาทีแรกแม้ว่าบาร์ซาจะครองบอลบุกได้มากกว่า แต่กลับเป็นอลาเบสที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ ในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ กิโก้ เฟเมเนีย เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาให้ เดย์แวร์สัน เข้าฮอร์สด้วยการใช้เท้าซ้ายจิ้มระยะเผาขนเข้าไปตุงตาข่าย ส่งให้น้องใหม่ออกนำในครึ่งแรก 1-0
ออกสตาร์ตครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้น ทัพอาซูลกรานาก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ เนย์มาร์ เปิดให้ เฌเรมี มาติเยอ เทกตัวโขกเข้าไป ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 1-1
แต่แล้วในนาทีที่ 64 อลาเบสก็กลับมาทำประตูขึ้นนำได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ อิไบ โกเมซ ลากลุยแหวกแนวรับบาร์ซาในเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยขวาผ่านมือ ซิลเลสเซน เข้าไปอย่างเด็ดขาด ช่วยให้ทีมเยือนออกนำอีกหนที่ 2-1
หลังจากนั้นแม้ว่าเจ้าบ้านจะส่งบรรดาตัวหลักที่วันนี้เป็นแค่สำรองอย่าง ลิโอเนล เมสซี, อันเดรส อิเนียสต้า และ หลุยส์ ซัวเรซ ลงมาเพื่อหวังพลิกเกมกลับมาตามตีเสมอได้อีกรอบเป็นอย่างน้อย แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ส่งผลให้สุดท้ายจบเกมกลายเป็นอลาเบสที่บุกมาเอาชนะไปได้แบบพลิกล็อค 2-1