โจเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด เปิดเผยว่า ลูกทีมของตนได้รับ ดีเอ็นเอ ของความเป็นนักสู้กลับมาแล้ว หลังพลิกกลับมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี แบบสุดมัน 3-2 ทั้งที่ตกเป็นรองถึง 2 ครั้ง ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก เมื่อคินวันอังคารที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา
"ราชันชุดขาว" ตกเป็นฝ่ายตามหลัง 0-1 จากหัวหอกตัวสำรองอย่าง เอดิน เซโก ในนาทีที่ 68 ก่อนที่ มาร์เซโล แบ็คจอมบุกชาวบราซิล จะซัดตีเสมอ ในอีก 8 นาทีต่อมา ทว่า อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ กลับพังประตูให้ "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นนำเป็นครั้งที่ 2 จากลูกฟรีคิก ในนาทีที่ 85
อย่างไรก็ตาม คาริม เบนเซมา ก็มาซัลโวกู้สถานการณ์ของ แชมป์ ลา ลีกา อีกครั้งในนาทีที่ 87 และอีก 3 นาทีต่อมา คริส เตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส ก็มาทำประตูปิดท้าย ให้ ทีมจากเมืองหลวง แซงเข้าป้ายด้วยสกอร์ 3-2
มูรินโญ รู้สึกดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ กับชัยชนะเหนือสโมสรชั้นนำอย่าง แมนฯ ซิตี ซึ่งนักเตะของตนสมควรได้รับ พร้อมทั้งเผยว่า ความสำเร็จจากนัดนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนของทีม หลังทำผลงานในช่วงออกสตาร์ท ลีกแดนกระทิงดุ อย่างย่ำแย่
"เดอะ สเปเชียล วัน" กล่าวว่า "มันเป็นชัยชนะที่สำคัญ เพราะเลือดนักสู้ของลูกทีมกลับมาแล้ว พวกเขาพิสูจน์ให้ผมเห็นว่า หากพวกเขาต้องการเป็นเบอร์ 1 ของวงการฟุตบอล และให้เกียรติต่อประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของ เรอัล มาดริด พวกเขาต้องทำได้"
"เราอาจแพ้ในเกมนี้ แต่ผมจะภูมิใจ แต่เราไม่สามารถแพ้เหมือนเกมที่เราเล่นกับ เซบีญา และ เกตาเฟ ความสุขของผมไม่ใช่แค่การเก็บ 3 คะแนน มันเกี่ยวกับ ดีเอ็นเอ ความเป็นนักสู้ของทีมได้กลับมาแล้ว" อดีตกุนซือ อินเตอร์ ทิ้งท้าย