เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น



ข่าว: SMF - Just Installed!




เชียร์บอล

ผู้เขียน หัวข้อ: มาห์เรซเบิ้ล! เลสเตอร์บุกต้อนคลับบรูช 3-0  (อ่าน 1131 ครั้ง)

Bigballs

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1620
    • ดูรายละเอียด

ทัพจิ้งจอกสยามทำผลงานในการลงสัมผัสเกมถ้วยบิ๊กเอียร์ครั้งแรกได้อย่างสวยงาม หลังบุกไปเก็บชัยเหนือทีมจากเบลเยียมแบบขาดลอย

มิเชล พรูดอมม์ อดีตผู้รักษาประตูระดับตำนานของทีมชาติเบลเยียม ซึ่งเป็นกุนซือฝั่งเจ้าบ้าน ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 10 ในตารางของศึกโปรลีกเบลเยียม เลือกจัดทัพมาในระบบ 5-4-1 ทิ้งดาวยิงทีมชาติมาลีอย่าง อับดูลาย ดิยาดี้ ยืนเป็นหน้าเป้า คอยประสานร่วมกับตัวริมเส้นอย่าง ฮานส์ วานาเก้น และ โฮเซ เอสกีเอโด้

ด้านทีมเยือนของ เคลาดิโอ รานิเอรี ซึ่งจะได้ลงสนามในถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นนัดแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ปรับทัพจากเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่บุกแพ้ลิเวอร์พูล 1-4 เพียงแค่ 2 รายเท่านั้น โดยส่งสองนักเตะใหม่อย่าง หลุยส์ เอร์นานเดซ กับ อิสลาม สลิมานี ลงมาเป็นตัวจริงแทน แดนนี ซิมพ์สัน และ ชินจิ โอกาซากิ

เริ่มเกมมาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น เป็นเลสเตอร์ที่สามารถฉวยโอกาสพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากลูกทุ่มไกลทางริมเส้นฝั่งขวาของ เอร์นานเดซ เข้ามาในเขตโทษที่ไปโดน วานาเก้น โหม่งสกัดไม่ขาดมาเข้าทาง มาร์ค อัลไบรท์ตัน ล้มตัวยิงจ่อๆหน้าปากประตูโล่งๆเข้าไป ส่งให้แชมป์พรีเมียร์ลีกบุกนำ 1-0

ถัดมานาทีที่ 29 ทัพจิ้งจอกสยามมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางฝั่งขวาเล็กน้อยที่ ริยาด มาห์เรซ บรรจงปั่นอ้อมกำแพงส่งบอลพุ่งแรงและโค้งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ทีมเยือนบุกมานำห่างเพิ่มเป็น 2-0 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังแม้ว่าฝั่งคลับ บรูชจะพยายามตั้งเกมบุกเพื่อหวังตีไข่แตกให้ได้เร็วที่สุด แต่กลับต้องโดนทีเด็ดสวนกลับของเลสเตอร์จนพลาดเสียจุดโทษ ในนาทีที่ 61 จากจังหวะที่ เจมี วาร์ดี้ โดนผู้รักษาประตูของเจ้าบ้านอย่าง ลูโดวิช บูเตลเล เจตนาตัดฟาวล์จมล้มลงไป ก่อนจะเป็น มาห์เรซ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เป็นลูกสองของตัวเองในเกมนี้ด้วย ทำให้แชมป์พรีเมียร์ลีกทิ้งห่างเป็น 3-0

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นเลสเตอร์ ซิตี้โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมสมราคาแชมป์พรีเมียร์ลีก ด้วยการบุกมาเอาชนะไป 3-0 เก็บสามแต้มแรกในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ