ยังหนังเหนียวเหมือนเดิมสำหรับเซปป์ แบลตเตอร์ได้ครองเก้าอี้ประธานฟีฟ่าต่อเป็นสมัยที่ 5 หลังจากที่เจ้าชายอาลี บิน อัล ฮุสเซนถอนตัวก่อนจะมีการลงคะแนนโหวตรอบสองการเลือกตั้งประธานฟีฟ่ายังถูกจัดขึ้นแม้ช่วงนี้พวกเขาจะโดนมรสุมรุมเร้าจากที่เจ้าหน้าที่หลายรายรวมถึงรองประธานโดนควบคุมตัวไปหลังเจอกับข้อกล่าวหาพัวพันการคอรัปชั่น
แม้จะมีหลายฝ่ายอยากให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปก่อนแต่สุดท้ายก็ยังจัดขึ้นจนได้โดยเหลือเพียงแค่เจ้าชายอาลีที่มาท้าชิงแย่งบัลลงก์จากแบลตเตอร์เท่านั้น หลังมิเชล ฟาน ปรากและหลุยส์ ฟิโก้ถอนตัวไปก่อนหน้านี้
ในการโหวตจำเป็นต้องมีรอบสองเมื่อแบลตเตอร์ได้รับคะแนนเสียง 133 โหวตในขณะที่เจ้าชายอาลีได้ 73 โหวตส่วนอีก 3 คะแนนเป็นบัตรเสีย ซึ่งคะแนนของแบลตเตอร์ยังไม่ถึง 2 ใน 3 ทำให้จำเป็นต้องมีการโหวตรอบสองเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามก่อนจะทำการลงคะแนนเสียงรอบสองทางเจ้าชายอาลีได้ตัดสินใจถอนตัวจากการลุ้นตำแหน่งประธานฟีฟ่าซะอย่างนั้น
นั่นทำให้แบลตเตอร์ครองตำแหน่งนี้ต่อไปเป็นสมัยที่ 5 ซึ่งจะทำให้เขามีอายุถึง 83 ปีในการเลือกตั้งครั้งหน้าปี 2019
"ผมแค่อยากขอบคุณทุกคน เป็นการเดินทางที่วิเศษ ผมอยากขอบคุณทุกคนที่กล้าหาญโหวตให้ผมเป็นพิเศษ"เจ้าชายอาลีกล่าวในการตัดสินใจถอนตัว
"แต่กระนั้นผมจะถอนตัวจากการแย่งตำแหน่ง ขอบคุณทุกคนอย่างยิ่งและผมขออวยภรให้ทุกคนโชคดีในอนาคต"
หลังจากนั้นแบลตเตอร์ก็ขึ้นมาบนเวทีเพื่อกล่าวหลังจากได้ดำรงตำแหน่งอีกสมัย
"ผมขอขอบคุณ ผมขอบคุณที่คุณยอมรับผม ผมจะพาเรือลำนี้กลับ ผมจะพาเรือกลับเข้าสู่ฝั่ง"ใจความสั้นๆจากที่แบลเตอร์ร่ายยาว
แบลตเตอร์ยังโม้ว่าจะปฏิรูปอีกและบอกเพิ่มเติมว่า "ผมจะไม่แตะต้องฟุตบอลโลกเพราะฟุตบอลโลกคือสิ่งสำคัญเกินไป"
ย้อนรอยผลโหวตประธานฟีฟ่า 5 สมัยของแบลตเตอร์
2015 - คะแนนเสียง 64% จากการโหวตรอบแรก
2011 - คะแนนเสียง 91%
2007 - "ได้รับเสียงปรบมือ"
2002 - คะแนนเสียง 71%
1998 - คะแนนเสียง 58%
