(http://upic.me/i/bj/615655104.jpg)
หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือบาร์เซโลน่า รู้ดีว่าความผิดพลาดมากมายของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเหตุให้ทีมของเขาถล่มคู่แข่งจากอังกฤษไปเละเทะ 4-0 ในศึกแชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่มซี เมื่อคืนที่ผ่านมา
เกมที่คัมป์ นู ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งหลังจากเจ็บไปร่วมเดือน เขาเปิดตัวในเกมนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแฟร์นานดินโญ่ ที่ลื่นล้มหน้าประตู ฉกบอลเข้าไปยิงให้ทีมนำ 1-0 ในครึ่งแรก
ก่อนที่ครึ่งหลัง"เรือใบสีฟ้า"จะมาเหลือผู้เล่น 10 จากจังหวะที่เคลาดิโอ บราโว่ ออกบอลพลาดไปเข้าทางหลุยส์ ซัวเรซ ก่อนที่เขาจะใช้มือตัดบอลนอกกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าแจกใบแดงทันที
หลังจากนั้นยังมีข้อผิดพลาดของเควิน เดอบรอยน์และอิลคาย กุนโดกัน ที่ทำให้เมสซี่ทำแฮทริคของเขาในเกมนี้ และปิดท้ายด้วยลูกยิงของเนย์มาร์ ช่วยให้บาร์ซ่าชนะไป 4-0
"มันมีความผิดพลาดที่รุนแรงในเกมนี้(จากฝั่งซิตี้) และนั่นถือเป็นของแถม การใช้ประโยชน์จากความความผิดพลาดเหล่านั้นคือคีย์หลักเลย และเราก็ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้" เอ็นริเก้เผย
นอกจากนี้เขายังพูดถึงเมสซี่ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ "ชัดเจนว่าเมสซี่เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก เขาคือการตีความที่สมบูรณ์แบบในทุกๆอย่างที่ฟุตบอลเป็น คงจะซื่อไปหน่อยที่จะไปสงสัยในตัวเขา เป็นอีกครั้งที่เขาชี้ขาดเกม"
อย่างไรก็ตามเอ็นริเก้ยอมรับว่าการที่ซิตี้เหลือ 10 คนนั้นเป็นจุดเปลี่ยนเกม "ผมไม่คิดว่าซิตี้จะดูแย่นะ แต่แน่นอนว่าใบแดงนั้นเป็นตัวชี้ขาดเลย มันสร้างความแตกต่างอย่างมาก"
บาร์เซโลน่านั้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มซีหลังชนะรวดมา 3 นัดติด เกมต่อไปพวกเขาต้องบุกไปเยือนบาเลนเซียในศึกลา ลีก้า คืนวันเสาร์นี้