วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ลิเวอร์พูล vs นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด



พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ลิเวอร์พูล[2] (-2/2.5) นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด[9]

เวลา : 21:00 น.

ราคาต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ สองลูกควบสองลูกครึ่ง




สถิติการพบกัน
- พบกัน 23 คู่, ลิเวอร์พูล: ชนะ 13(56.52%), เสมอ 5(21.73%), แพ้ 5(21.73%).

การพบกัน 5 เกมหลังสุด

ENG PR 19/10/13  นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-2 ลิเวอร์พูล* 0.5/1 แพ้
ENG PR 28/04/13  นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-6 ลิเวอร์พูล* 0/0.5 ชนะ
ENG PR 04/11/12 ลิเวอร์พูล* 1-1 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด  1 แพ้
ENG PR 01/04/12 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 ลิเวอร์พูล*  0/0.5 แพ้
ENG PR 31/12/11 ลิเวอร์พูล* 3-1 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1 ชนะ


ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล

ENG PR 06/05/14 คริสตัล พาเลซ 3-3 ลิเวอร์พูล* เสมอ
ENG PR 27/04/14 ลิเวอร์พูล* 0-2 เชลซี แพ้
ENG PR 20/04/14 นอริช ซิตี้ 2-3 ลิเวอร์พูล* ชนะ
ENG PR 13/04/14  ลิเวอร์พูล* 3-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ
ENG PR 06/04/14 เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-2 ลิเวอร์พูล* ชนะ


ผลงานในบ้าน 5 นัดหลังสุด

ENG PR 27/0414 ลิเวอร์พูล 0-2 เชลซี* แพ้
ENG PR 13/0414  ลิเวอร์พูล 3-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้* ชนะ
ENG PR 30/0314 ลิเวอร์พูล 4-0 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์* ชนะ
ENG PR 27/0314 ลิเวอร์พูล 2-1 ซันเดอร์แลนด์* ชนะ
ENG PR 23/0214 ลิเวอร์พูล 4-3 สวอนซี ซิตี้* ชนะ


นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ENG PR 03/05/14 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด* 3-0 คาร์ดิฟฟ์ซิตี้ ชนะ
ENG PR 29/04/14 อาร์เซน่อล* 3-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แพ้
ENG PR 19/04/14 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด* 1-2 สวอนซี ซิตี้ แพ้
ENG PR 12/04/14 สโต๊ค ซิตี้* 1-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แพ้
ENG PR 05/04/14 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด* แพ้


ผลงานนอกบ้าน 5 นัดหลังสุด

ENG PR 29/0414 อาร์เซน่อล 3-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด* แพ้
ENG PR 12/0414 สโต๊ค ซิตี้ 1-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด* แพ้
ENG PR 29/0314 เซาแธมป์ตัน 4-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด* แพ้
ENG PR 15/0314 ฟูแล่ม 1-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แพ้
ENG PR 01/0314 ฮัลล์ ซิตี้ 1-4 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด* ชนะ


ตารางคะแนน

อันดับ ชื่อทีม แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม หมายเหตุ
1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 37 26 5 6 100 37 83 ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
2 ลิเวอร์พูล 37 25 6 6 99 49 81 ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
3 เชลซี 37 24 7 6 69 26 79 ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
4 อาร์เซน่อล 37 23 7 7 66 41 76 รอบคัดเลือกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
5 เอฟเวอร์ตัน 37 20 9 8 59 39 69 ยูฟ่า ยูโรป้าลีก
6 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 37 20 6 11 52 51 66  
7 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 37 19 6 12 63 42 63  
8 เซาแธมป์ตัน 37 15 10 12 53 45 55  
9 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 37 15 4 18 42 57 49  
10 สโต๊ค ซิตี้ 37 12 11 14 43 51 47  
11 คริสตัล พาเลซ 37 13 5 19 31 46 44  
12 เวสต์แฮมยูไนเต็ด 37 11 7 19 40 49 40  
13 สวอนซี ซิตี้ 37 10 9 18 51 53 39  
14 ซันเดอร์แลนด์ 37 10 8 19 40 57 38  
15 แอสตัน วิลล่า 37 10 8 19 39 58 38  
16 ฮัลล์ ซิตี้ 37 10 7 20 38 51 37  
17 เวสต์ บรอมมิช อัลเบียน 37 7 15 15 42 57 36  
18 นอริช ซิตี้ 37 8 9 20 28 60 33  
19 ฟูแล่ม 37 9 4 24 38 83 31  
หมายเหตุ: ฟูแล่ม โดนตกชั้นที่แน่นอน
20 คาร์ดิฟฟ์ซิตี้ 37 7 9 21 31 72 30  
หมายเหตุ: คาร์ดิฟฟ์ซิตี้ โดนตกชั้นที่แน่นอน


สภาพความพร้อมของนักเตะ


ลิเวอร์พูล :

              "หงส์แดง" จากการทำงานของกุนซือหนุ่ม "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" ยังเหลือความหวังในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แม้จะริบหรี่เต็มทน หลังออกไปโดน คริสตัล พาเลซ บด 3-3 เมื่อคืนวันจันทร์ ทำให้เหลือทางเดียวคือภาวนาให้ แมนฯ ซิตี้ พ่ายคาบ้านในนัดสุดท้าย แล้วตัวเองชนะ นิวคาสเซิ่ล

              ความพร้อมก่อนเกมนัดปิดซีซั่นที่ แอนฟิลด์ วันอาทิตย์นี้ มีข่าวดีเมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางจอมขยันทีมชาติอังกฤษ พร้อมกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง หลังหายหน้าไปสามนัดหลังสุดเพราะติดโทษแบนจากใบแดงตั้งแต่เกมกำราบ แมนฯ ซิตี้ 3-2 เท่ากับว่า เวลานี้ กุนซือหนุ่มชาวไอร์แลนด์เหนือ เหลือแค่ โฆเซ่ เอ็นริเก้ กับ เซบาสเตียน โคอาเตส สองกองหลังที่พักยาวเท่านั้น ส่วนที่เหลือต่างพร้อมทำตามหน้าที่ของตัวเองด้วยการเอาชนะ สาลิกาดง ไว้ก่อน

              บีร็อด เตรียมพร้อมจัดทัพลุยแหลกหวังคว้าชัยกำนัลแด่แฟนๆ โดย ซิมง มิโญเล่ต์ โกลมือกาวจะเฝ้าเสาหลังแผงแบ็กโฟร์ที่ส่อใช้ มามาดู ซาโก้ คู่ มาร์ติน สเคอร์เทล ต่อไป โดยมี เกล็น จอห์นสัน กับ จอน ฟลานาแกน ขนาบข้างขวา-ซ้ายส่วนแดนกลาง คาดว่า เฮนเดอร์สัน กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จะกลับมาผนึกกำลังกับกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด อีกครั้ง ทำให้ ลูคัส เลวา กับ โจ อัลเลน ต้องนั่งสำรอง ถือเป็นชุดที่ทำผลงานได้สุดยอดก่อนหน้านี้ ส่วนแนวรุกใช้งานเจ้าหนู ราฮีม สเตอร์ลิง ในบทบาทหน้าต่ำหลังคู่หอก แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว 31 เม็ด เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีคนล่าสุด


นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด :

              "สาลิกาดง" ของกุนซือ อลัน พาร์ดิว หยุดสถิติปราชัยไว้ที่หกนัดติดต่อกันด้วยการเปิดบ้านทุบ คาร์ดิฟฟ์ 3-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะมาเยือน แอนฟิลด์ แบบนับถอยหลังรอให้จบฤดูกาลที่ไม่มีอะไรเหลือให้ลุ้น
มีข่าวไม่ สู้ดีนักก่อนเกมนี้ เมื่อ ปาปิสส์ ซิสเซ่ กองหน้าผิวหมึกชาวเซเนกัลที่เจ็บมาตั้งแต่เกมพ่าย สวอนซี เมื่อเดือนเมษายน จะต้องขึ้นเขียงผ่าตัดซ่อมแซมหัวเข่า และพักยาวนานถึงสี่เดือนเต็มเลยทีเดียว
ส่วนที่เหลือ ถือว่า พาร์ดิว ที่กำลังโดนแฟนๆ กดดัน ไม่มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักๆ บาดเจ็บเพิ่มเติมหรือมีปัญหาความฟิต โดยในรายของ ไรอัน เทย์เลอร์ นักเตะสารพัดประโยชน์ กลับมาซ้อมเบาๆ ได้แล้วหลังไปผ่าตัดหัวเข่ามา

              ทั้งนี้เชื่อว่า พาร์ดิว คงยึด 11 ขุนพลชุดเดิมที่เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ได้ นำโดยคู่กองหน้า โชล่า อเมโอบี้ กับ โลอิก เรมี่ ซึ่งรายแรก จะเล่นเต็มที่เพื่อสัญญาใหม่ ส่วนรายหลังที่ถูกยืมมาจาก ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส หวังทิ้งทวนเพื่อเรียกค่าตัวด้วยการระเบิดฟอร์ม



วิเคราะห์บอล

              เชื่อวันนี้"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล จัดเต็มต่อหน้าแฟนๆ ปีนี้ฟอร์มในบ้านแข็งแกร่ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยามเจอ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยไม่แพ้เลยใน 14 นัดหลังที่เจอกันทุกถ้วย ยามนี้ ทีมเยือนห่อเหี่ยว ถึงขนาดยิงนอกบ้านไม่เป็นถึง 6 จาก 7 นัดหลัง ทูน อาร์มี่ ไม่เหลืออะไรให้ลุ้น ปัญหาการบริหารทีมก็เยอะ ดูเหลี่ยมไหน เด็กๆ ของ "ร็อดเจอร์ส" ก็จะดาหน้าบุกตั้งแต่สิ้นเสียงนกหวีดแรก แล้วคว้าชัยแบบไม่ยากเย็น ก่อนภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์อีกสนาม

ฟันธง : ต่อ ลิเวอร์พูล


ผลงานที่คาด : ลิเวอร์พูล 3-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด



Posted at 11/05/2014 09:50 นาที

เชียร์บอล
เชียร์บอล
เชียร์บอล
banner
banner
banner