บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดเว็บไซต์ทางการของสโมสรเอฟเวอร์ตัน ได้มีการยืนยันว่าต้นสังกัดเซ็นสัญญาให้ทางช้าง เป็นสปอนเซอร์ต่ออีก 3 ปี โดยดีลดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 16 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดตลอดประวัติศาสตร์ 136 ปีของสโมสร
ย้อนไปเมื่อปี 2004 ทางเบียร์ช้างได้ทำฮือฮา เซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ให้กับเอฟเวอร์ตัน สโมสรฟุตบอลของประเทศอังกฤษ โดยเป็นแบรนด์แรกของประเทศไทยที่มีชื่อคาดหน้าอกทีมดังระดับโลก
สำหรับสัญญาฉบับแรกที่ช้างได้เป็นสปอนเซอร์หลักให้แก่เอฟเวอร์ตันนั้นมีระยะเวลา 1 ปี และได้รับการขยายสัญญาเรื่อยมาทั้งในปี 2005, 2008 และล่าสุดปี 2010
สัญญาฉบับปัจจุบันของช้างกับเอฟเวอร์ตันจะสิ้นสุดลงหลังจบฤดูกาลหน้า และด้วยสัญญาฉบับใหม่ครั้งนี้ จะทำให้เบียร์ช้าง เป็นพันธมิตรกับสโมสรเอฟเวอร์ตันต่อไปอีกอย่างน้อยจนสิ้นสุดฤดูกาล 2016/2017 โดยในปัจจุบันสัญญาการเป็นสปอนเซอร์บนหน้าอกของทั้งสองฝ่ายนั้นถือว่ามีระยะเวลายาวนานที่สุด มากกว่าทุกๆทีมในพรีเมียร์ ลีก
ในส่วนเรื่องผลงานความร่วมมือระหว่างช้างและสโมสรเอฟเวอร์ตันที่เห็นเป็นรูปธรรมนั้น ได้แก่ไทยเบฟอะคาเดมี่ โดยเป็นโครงการที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2004 ย้อนไปในเวลานั้นเป็นสถานที่ฝึกซ้อมให้กับเด็กเยาวชนไทยในท้องถิ่นไม่กี่คน จนปัจจุบันพัฒนาขึ้นมาเป็นศูนย์ฝึกที่รอต้อนรับนักเตะรุ่นจิ๋วหลายพันคนในแต่ละสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีนักเตะในโครงการช้างไทยสู่เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2005 ทั้งธีรเทพ วิโนทัย, สมปอง สอเหลบ, รัตตพล ปิยวุฒิสกุล, ธีรศิลป์ แดงดา, รณชัย รังสิโย, นฤพล อารมณ์สวะ และศักรินทร์ จันทร์โยธา มาเก็บตัวฝึกซ้อมกว่า 9 เดือน และ 5 จาก 7 คนสามารถก้าวขึ้นติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
"ช้าง ตกลงที่จะจับมือกับสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน โดยร่วมกันลงนามต่อสัญญาให้การสนับสนุนสโมสรเอฟเวอร์ตันต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 หลังจากให้การสนับสนุนมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี"
"ถือเป็นมิตรที่ก้าวเดินเคียงข้างกันสู่ความสำเร็จซึ่ง "ช้าง" ได้รับรู้ถึงศักยภาพและความสำเร็จของเอฟเวอร์ตันที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นผู้สร้างมิติใหม่ในวงการกีฬาฟุตบอล สำหรับในประเทศไทยนั้น การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันนับเป็นความภาคภูมิใจของเครื่องดื่มแบรนด์ไทยสามารถประกาศความเป็นผู้นำในการสร้างแรงบันดาลใจ ทัศนคติ และ ความคิดในเชิงบวกแก่เยาวชนและคนไทยทุกคน ผ่านกีฬาฟุตบอล ผ่านโลโก้ "ช้าง" บนอกเสื้อนักเตะเอฟเวอร์ตันทุกคน อีกทั้งยังนำพาประโยชน์และโอกาสให้พัฒนาฝีมือมาสู่วงการฟุตบอลไทย ตั้งแต่ระดับเยาวชนไทย ไปจนถึงโค้ชผู้ฝึกสอน อีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ช้าง และ สโมสรฟุตบอลเอเวอร์ตัน จะยังคงไว้ซึ่งมิตรภาพ และจะเกินก้าวไปข้างหน้าร่วมกันอย่างแข็งแกร่งสู่ความสำเร็จได้อีกในอนาคตอันใกล้"
ทางด้านโรเบิร์ต เอลสตัน CEO ของสโมสรเอฟเวอร์ตัน ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการต่อสัญญา ซึ่งมีมูลค่าเป็นสถิติสูงที่สุดตั้งแต่ที่สโมสรก่อตั้งมา
"เอฟเวอร์ตันเพลิดเพลินในความสัมพันธ์สุดพิเศษกับทางช้างมาตลอด 10 ปี" โรเบิร์ต เอลสตันกล่าว
"ในช่วงเวลาที่ผ่านมาช้างกับเอฟเวอร์ตันได้จับมือกันทำงานที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน จนประสบความตามเป้าหมาย อีกทั้ง ยังได้ร่วมกันพัฒนาความร่วมมืออันใหญ่ด้วยมิตรภาพที่ตั้งมั่นอยู่บนความไว้วางใจ เคารพในเกียรติ และรักกันอย่างจริงใจ"
"พวกเราไม่ได้มองว่าการเป็นพันธมิตรและหลายๆสิ่งที่เราบรรลุร่วมกันนั้นเป็นเรื่องเล่นๆ"
"เอฟเวอร์ตันภูมิใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นร่วมกันของทั้งสองฝ่ายจากอดีตจนถึงปัจจุบันเอามากๆ"
"ช้างเป็นธุรกิจที่ให้การสนับสนุนอย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ไม่ใช่แค่เพียงด้านการเงิน แต่ยังเป็นประตูให้กับแฟนบอลของพวกเราในประเทศไทย"
"ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาพวกเราได้นำเสนอสิ่งที่น่าตื่นเต้นหลายๆอย่าง รวมทั้งโครงการที่คว้ารางวัลมากมาย และด้วยความคิดสร้างสรรค์และความตั้งใจระดับเดียวกันนี้ ผมมั่นใจว่าอนาคตภายภาคหน้าก็จะเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน"
"เอฟเวอร์ตันภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับการต่อสัญญาขยายความร่วมมือกับองค์กรระดับโลก องค์กรซึ่งให้ความสำคัญกับบุคคล และเช่นเดียวกับสโมสรของพวกเรา คือมองหาความเป็นที่สุดเท่านั้น"
"ผมอยากจะขอขอบคุณคุณฐาปน (ฐาปน สิริวัฒนภักดี) และเพื่อนๆของเราที่ช้างทุกๆคนสำหรับการสนับสนุนทีมของเรา"
สำหรับการต่อสัญญาครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย โดยทางเอฟเวอร์ตันได้ส่งโรเบิร์ต เอลสตัน (CEO ของสโมสร), อารูน่า โคเน่ หัวหอกในทีมชุดปัจจุบันและแกรม ชาร์ป อดีตดาวยิงระดับตำนานของทีมร่วมเป็นสักขีพยาน
