เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น



ข่าว: SMF - Just Installed!




เชียร์บอล

ผู้เขียน หัวข้อ: "อันเช่"ขอบคุณครอบครัวบาเยิร์น-กุนซือคนแรกคว้าแชมป์ 4 จาก 5 ลีกหลัก  (อ่าน 1067 ครั้ง)

Bigballs

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1620
    • ดูรายละเอียด

  คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือบาเยิร์น มิวนิค ออกมาแสดงความยินดีและขอบคุณทุกคนในสโมสรหลังจากนำทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าฤดูกาล 2016-17 ได้สำเร็จ

เกมที่ฟลค์สวาเก้น อารีน่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา หาก"เสือใต้"บุกเอาชนะโวล์ฟสบวร์กได้พวกเขาจะคว้าถาดแชมป์ในฤดูกาลนี้ไปครองทันที หลังจากที่รองจาฝูงอย่างแอร์เบ ไลป์ซิก ลงเตะก่อนแล้วพลาดเสมอ

และพวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง ไล่ยิงเจ้าถิ่นแบบไม่ไว้หน้า 6-0 โดยเป็นผลงานของดาวิด อลาบา, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้(2), อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์ และโยชัว คิมมิช

ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นทีมแรกที่ทำได้ติดกันขนาดนี้ แต่เป็นปีแรกที่อันเชล็อตติเข้ารับตำแหน่ง

"ผมแฮปปี้มากๆ ผมโชคดีที่ได้มาอยู่กับสโมสรน่าทึ่ง ที่มีผู้เล่นและแฟนบอลชั้นยอดแห่งนี้" กุนซือวัย 57 บอกกับนักข่าวหลังเกม

"ผมได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากรุมเมนิกเก้และทุกคนจากสโมสร นั่นเป็นเรื่องที่สำคัญมากต่อผู้จัดการทีม ผมโชคดีมากจริงๆ"

"ผมรู้สึกว่าสโมสรแห่งนี้เป็นเหมือนครอบครัวและผมก็ได้อยู่ในครอบครัวนี้"

"วันนี้เราเล่นด้วยแรงกระตุ้นที่สูงมาก แน่นอนว่าช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่เราใช้มันเป็นแรงกระตุ้น เรามีความสุขกับโมเมนต์ในตอนนี้"

"เราสามารถดีกว่านี้ได้ เราน่าจะมีโชคมากกว่านี้ในบางสถานการณ์ในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก และ โพคาล เราเรียนรู้จากเรื่องนี้ได้และจะดีขึ้นในฤดูกาลหน้า" เขากล่าว

ฤดูกาลนี้บาเยิร์นเหลือเกมให้เล่นอีก 3 นัด โดยเป็นการเล่นในลีกกับดาร์มสตัดท์(เหย้า), ไลป์ซิก(เยือน) และไฟรบวร์ก(เหย้า)

สถิติที่น่าสนใจหลังเกมโวล์ฟสบวร์ก พบ บาเยิร์น มิวนิค (29 เมษายน 2017)
- อันเชล็อตติ เป็นกุนซือคนแรกที่สามารถคุมทีมเป็นแชมป์ 4 จาก 5 ลีกหลักของยุโรป(อิตาลี,อังกฤษ,ฝรั่งเศส,เยอรมนี)
- บาเยิร์น สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ที่สนามเหย้าของโวล์ฟบวร์กเป็นครั้งที่ 3 (2003, 2008, 2017)
- ความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 6-0 เป็นผลการแข่งที่โวล์ฟสบวร์กแพ้ยับเยินที่สุดตลอดกาลในศึกบุเดสลีก้า
- หลุยส์ กุสตาโว่ ที่โดนไล่ออกในช่วงท้ายเกม นับเป็นการโดนตะเพิดครั้งที่ 8 ของเขาในบุนเดสลีก้า มากที่สุดในประวัติศาสตร์เทียบเท่าเยนส์ โนว็อทนี่ อดีตกองหลังไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น