จากผลเสมอ 1-1 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ทำให้ฤดูกาลนี้ทั้งสองทีมเสมอกันในศึกแดงเดือดทั้งสองนัด ซึ่งถือเป็นฤดูกาลแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1987-88 เลยทีเดียวเกมพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็น"หงส์แดง"ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนจากจุดโทษแฮนด์บอลของปอล ป็อกบา ก่อนที่เจมส์ มิลเนอร์จะซัดเข้าไปไม่เหลือ บุกนำไปก่อน 1-0 ในครึ่งแรก
อย่างไรก็ตามครึ่งหลังเจ้าถิ่น"ปีศาจแดง"ก็แก้เกมกลับมาลงเล่นได้อย่างดี แต่ก็ใช้เวลานานกว่าจะมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกโหม่งของซลาตัน อิบราฮิโมวิช นาที 84 ก่อนจบเกมแบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน
จากผลการแข่งขันดังกล่าว ทำให้ปีนี้ทั้งคู่กินกันในเกมลีกไม่ลงเพราะนัดแรกที่แอนฟิลด์ก็เสมอกันมาแบบไร้สกอร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เกมแดงเดือดจบลงด้วยผลเสมอทั้งสองนัดในเกมลีก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1987-88 หรือ 29 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ที่ลีกสูงสุดยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นพรีเมียร์ลีก
โดยในฤดูกาลนั้นเกมแรกเสมอกันในโอลด์ แทรฟฟอร์ดก่อน 1-1 ก่อนนัดที่สองจะเสมออีกครั้งในแอนฟิลด์ 3-3 พร้อมกับการที่ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์เหนือยูไนเต็ด ในบั้นปลาย
อย่างไรก็ตามแม้โปรแกรมการเจอกันในลีกของทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้จะครบแล้ว แต่ทั้งคู่ยังมีสิทธิ์ฉะกันอีกครั้งในเวอร์ชั่นฟุตบอลถ้วย โดยเฉพาะในศึกอีเอฟแอล คัพ ที่ยังอยู่ในรอบรองชนะเลิศ ทั้งสองทีม
สถิติที่น่าสนใจในเกมแดงเดือด 15 มกราคม 2017
> เจมส์ มิลเนอร์ ยังไม่เคยแพ้ในพรีเมียร์ลีกหากเขาทำประตูให้กับทีมได้(46 นัด) เป็นสถิติเทียบเท่ากับที่ดาริอุส วาสเซลล์ เคยทำเอาไว้
> 10 ครั้งหลังที่เจมส์ มิลเนอร์สังหารจุดโทษในพรีเมียร์ลีก เขาไม่เคยพลาดเลย
> ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงได้ 14 ประตูจากการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 20 นัดแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสถิติเทียบเท่ากับโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ยังเป็นรองรุด ฟาน นิสเตลรอย และ ดไวท์ ยอร์ค ที่ทำเอาไว้ 15 ประตู
> เวย์น รูนีย์ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 450 แล้ว นับเป็นดาวเตะเอาท์ฟิลด์คนที่ 17 ที่ทำได้
