เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น



ข่าว: SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.





เชียร์บอล

Messages - Bigballs

หน้า: 1 ... 106 107 [108]
1606

โรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้าของเอฟเวอร์ตัน ออกมาบอกว่าเขาต้องการสัญชาตญาณแบบฆาตกรต่อเนื่องให้มากกว่านี้ แม้ว่าเพิ่งจะทำแฮททริคช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะได้ในเกมล่าสุด

เกมพรีเมียร์ลีกนัดคืนวันจันทร์ ที่สนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ซันเดอร์แลนด์เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ"ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" 3-0 โดยทีมเยือนได้ประตูจากแฮททริคของลูกากู ภายในช่วงเวลาเพียง 11 นาที ในเกมครึ่งหลัง

ถึงจะเก็บสามคะแนนพร้อมขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่สามของตารางแต่ดาวยิงชาวเบลเยี่ยมยังผิดหวังกับฟอร์มของตนเองที่ไม่สามารถยิงให้ได้มากกว่านี้ เมื่อเทียบกับโอกาสที่มี

"ผมว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้นะ โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่มันไม่ได้ดีอย่างที่เราต้องการ" เขาบอกกับสกายสปอร์ต

"พวกเขาป้องกันได้ดี แต่เราก็เอาบอลขึ้นไปสร้างโอกาสได้ไม่มากด้วยแหละ ยกเว้นจังหวะ สองจังหวะที่ผมพลาด มันยังไม่ดีพอ"

"ครึ่งหลังนั้นดีกว่ามากและถือว่าเป็นชัยชนะที่เหมาะสมเลย"

"ผมคิดว่าตัวเองน่าจะยิงได้สัก 5 ลูกนะ เพราะงั้นผมต้องมีความเป็นฆาตกรต่อเนื่องให้มากกว่านี้ แต่วันนี้เราชนะและเกมรับก็เล่นกันได้ยอดเยี่ยม เราต้องไปกันเป็นทีม"

ลูกากูนั้นทำประตูในระดับสโมสรไม่ได้แล้ว 13 เกมก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมาวันนี้เขาปลดล็อคทีเดียวได้สามประตูเลย

"มันกำลังมาแล้ว ตอนที่ผมไปเล่นให้เบลเยี่ยมผมบอกว่ามันเป็นเรื่องระดับความฟิตของผมนะ มันไม่ดีพออย่างที่ที่ผมต้องการ"

"แต่ในพรีเมียร์ลีกคุณต้องมีสมาธิจนจบเกม และผมก็ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากยานนิค(โบลาซี่) และเควิน(มิราลลาส) จนสามารถจบสกอร์ได้"

"ผมแฮปปี้กับผลงานของทีม เรากำลังอยู่ในตำแหน่งที่ดีในลีก และเราต้องเดินหน้ากันต่อไป" เขาทิ้งท้าย

เกมต่อไปเอฟเวอร์ตันต้องกลับไปเปิดบ้านรับมิดเดิ้ลสโบรห์ ในวันเสาร์นี้

1607

 มีรายงานจากสื่อยักษ์ของฝรั่งเศสอย่างเลอ กิ๊ป ระบุว่าปารีส แซงต์ แชร์กแมง พยายามที่จะคว้าตัวอาร์แซน เวนเกอร์ไปร่วมทีมหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ก่อนเกมที่อาร์เซนอลจะบุกไปเยือนยักษ์ใหญ่ลีกเอิงในเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีก คืนวันอังคารนี้ สื่อก็เริ่มหาประเด็นต่างๆ ออกมาออกมาโหมโรงให้เกมดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

โดยหนึ่งในเรื่องที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงคือการที่เปแอชเชพยายามที่จะสร้างทีมด้วยการดึงผู้เล่นและผู้จัดการทีมชื่อดังเข้าสู่สโมสรหลังจากที่กลุ่มทุนจากกาตาร์เข้าไปเทคโอเวอร์สโมสร

เลอ กิ๊ป ระบุว่าเวนเกอร์นั้นเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่เปแอชเชเล็งมาโดยตลอด โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2011 ที่นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ เข้าไปหุบสโมสร เขาก็ต้องการตัวกุนซืออาร์เซนอลไปคุมทีมทันที แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ครั้งต่อมาคือในปี 2013 หลังจากที่คาร์โล อันเชล็อตติอำลาถิ่นปาร์ก เดอ แปรงซ์ พวกเขาก็พยายามติดต่อกับกุนซือชาวฝรั่งเศสอีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิมคือแห้วไปตามระเบียบ

ถัดมาอีกฤดูกาลเดียว คือเมื่อปี 2014 ผลก็ไม่ต่างจากเดิม แต่อย่างไรก็ตามเปแอชเชยังเชื่อว่าพวกเขาเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง หากเวนเกอร์สิ้นสุดหน้าที่กับอาร์เซนอล

เวนเกอร์นั้นมีสัญญาอยู่คุมทีมในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น โดยตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับสัญญาใหม่ของเขาแต่อย่างใด

1608

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ ลีก เอิง ไม่ใช่ชื่อ ฮาเต็ม เบ็น อาร์กฟา ปีกชายเดี่ยวในเกมยุโรปกับ อาร์เซน่อล คืนพรุ่งนี้ทั้งที่ไม่มีข่าวว่าเจ็บแต่อย่างใด

ซีซั่นนี้ดาวเตะวัย 29 ปีย้ายจาก นีซ มาอยู่ "เปแอสเช" ประเดิมด้วยการสตาร์ทตัวจริงยิงได้ 1 ตุงในศึก ซูเปอร์ คัพ ที่ถล่ม โอลิมปิก ลียง ขาดลอย 4-1

กระนั้นผ่านไป 4 นัดแรกในลีก เบ็น อาร์กฟา ลงครบแต่เป็นตัวจริงแค่ 2 นัดและไม่มีผลงานพังประตูหรือแอสซิสต์ให้เพื่อนแม้แต่ลูกเดียว

ผลงานของ ปารีส ใต้บังเหียน อูไน เอเมรี่ ก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างชนะ 2 นัดแรกเหนือ บาสเตีย กับ เม็ตส์ แต่ 2 นัดหลังบุกแพ้ โมนาโก และทำได้แค่เสมอ แซงต์-เอเตียนน์ ในบ้านตัวเอง

ล่าสุด ปารีส ประกายรายชื่อขุนพลชุดทำศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เฝ้ารัง ปาร์ก เดส์ แปร็งซ์ รับมือ "ไอ้ปืนใหญ่" คืนวันอังคารนี้ไร้ชื่อ เบ็น อาร์กฟา และ เลย์แว็ง คูร์กซาว่า

รายของ คูร์กซาว่า นั้นได้รับบาดเจ็บส่วน เบ็น อาร์กฟา นั้นไม่มีสื่อเจ้าไหนล่วงรู้สาเหตุแต่วงในอย่าง เลอ ปารีเซียง ระบุว่า "เบ็นเท็น" ไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ปารีส ใส่ชื่อ ติอาโก้ ซิลวา, แม็กซ์เวลล์, แซร์ช โอริเยร์ และ ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ แม้ทั้งหมดมีอาการบาดเจ็บรบกวน

รายชื่อนักเตะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ชุดทำศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ อาร์เซน่อล คืนพรุ่งนี้

ผู้รักษาประตู : เควิน ทรัปป์ , อัลฟงส์ อาเรโอล่า

กองหลัง : แซร์ช โอริเยร์ , เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ , มาร์ควินญอส , แม็กซ์เวลล์ , โธมัส เมอนิเยร์ , ติอาโก้ ซิลวา

กองกลาง : เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค , แบลส มาตุยดี้ , ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ , อาเดรียง ราบิโอต์ , ติอาโก้ ม็อตต้า , มาร์โก แวร์รัตติ

กองหน้า : เอดินสัน คาวานี่ , อังเคล ดิ มาเรีย , เฆเซ่ โรดริเกซ , ลูคัส มูร่า

1609

 มีการเปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก อังกฤษคือทีมที่ใช้เงินไปกับการซื้อนักเตะมากที่สุดในรอบ 7 ซีซั่นที่ผ่านมาแถมเป็นทีมเดียวที่ทุ่มทุนสร้างแตะหลัก 1 พันล้านยูโร

การค้นคว้าครั้งนี้จัดทำโดยสำนักงานลูกหนัง CIES ซึ่งผลงานก่อนหน้าคือการประเมินค่าตัวนักเตะด้วยหลักอัลกอริทึมแล้วเทียบกับราคาซื้อขายเพื่อหาว่าใครค่าตัวแพงเกินจริงที่สุด

CIES รวบรวมข้อมูลการใช้เงินซื้อนักเตะตั้งแต่ปี 2010 - 2016 และพบว่าในรอบ 7 ฤดูกาลหลังสุด "เรือใบสีฟ้า" คือแชมป์ผงาญงบด้วยตัวเลข 1,024 ล้านยูโร

ซิตี้ คือทีมเดียวในกรอบเวลานี้ที่ถลุงเงินถึงพันล้านยูโรทิ้งห่างอันดับ 2 และ 3 ที่ตามมาในหลักแปดร้อยล้านอย่าง เชลซี( 871 ลย. ) และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด( 841 ลย. ) ขาดลอย

ขณะเดียวกัน CIES เปิดเผยตัวเลขการใช้เงินเสริมทัพประจำปี 2016 ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองแชมป์เช่นกันที่ 231 ล้านยูโรและเป็นทีมเดียวอีกที่แตะหลักสองร้อยล้านในปีนี้

สถิติการซื้อในรอบ 7 ซีซั่นนั้นมีทีมพรีเมียร์ลีกติด 20 อันดับแรก 6 ทีมแต่สถิติการซื้อเฉพาะปีนี้มีสโมสรผู้ดีติดท็อป 20 มากถึง 12 ทีม


ซ้าย : รอบ 7 ซีซั่นหลัง , ขวา : เฉพาะปีนี้

บันทึกการใช้เงินซื้อนักเตะของ แมนฯ ซิตี้ ในรอบ 7 ซีซั่นหลังสุด( ตัวเลขจากเว็บไซต์ Transfermarkt ไม่นับตัวฟรีหรือยืม ยอดรวมอาจคลาดเคลื่อนจากผลของ CIES )

- 2010/11 : เอดิน เชโก้ 37 ล้านยูโร , ยาย่า ตูเร่ 30 ล้านยูโร , มาริโอ บาโลเตลลี่ 29.5 ล้านยูโร , ดาบิด ซิลบา 28.75 ล้านยูโร , อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ 22.7 ล้านยูโร , เจมส์ มิลเนอร์ 22 ล้านยูโร , เยโรม บัวเต็ง 12.5 ล้านยูโร

- 2011/12 : เซร์คิโอ อเกวโร่ 40 ล้านยูโร , ซาเมียร์ นาสรี่ 27.5 ล้านยูโร , สเตฟาน ซาวิช 12 ล้านยูโร , กาแอล กลิชี่ 7.75 ล้านยูโร , คอสเตล ปันติลิม่อน 3.8 ล้านยูโร

- 2012/13 : ฆาบี การ์เซีย 20.2 ล้านยูโร , มาติย่า นาสตาซิช 15.2 ล้านยูโร , แจ็ค ร็อดเวลล์ 15 ล้านยูโร , สก็อตต์ ซินแคลร์ 7.8 ล้านยูโร , ไมค่อน 3.75 ล้านยูโร

- 2013/14 : แฟร์นานดินโญ่ 40 ล้านยูโร , สเตวาน โยเวติช 26 ล้านยูโร , อัลบาโร่ เนเกรโด้ 25 ล้านยูโร , เฆซุส นาบาส 20 ล้านยูโร , มาร์ติน เดมิเคลิส 5 ล้านยูโร

- 2014/15 : วิลฟรีด โบนี่ 32.3 ล้านยูโร , เอเลียควิม ม็องกาล่า 30.5 ล้านยูโร , แฟร์นานโด 15 ล้านยูโร , วิลลี่ กาบาเญโร่ 8 ล้านยูโร , บรูโน่ ซูคูลินี่ 2.5 ล้านยูโร

- 2015/16 : เควิน เดอ บรอยน์ 74 ล้านยูโร , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 62.5 ล้านยูโร , นิโคลัส โอตาเมนดี้ 44.6 ล้านยูโร , แพทริค โรเบิร์ตส์ 15 ล้านยูโร , ฟาเบียน เดลฟ์ 11 ล้านยูโร , เอเนส อูนาล 3 ล้านยูโร , แอนโธนี่ คาเซเรส 320,000 ยูโร , ฟลอริย็อง เลอเฌิน 300,000 ยูโร , รูเบ็น โซบริโน่ 275,000 ยูโร

- 2016/17 : จอห์น สโตนส์ 55.6 ล้านยูโร , เลรอย ซาเน่ 50 ล้านยูโร , กาเบรียล เฮซุส 32 ล้านยูโร , อิลคาย กุนโดกัน 27 ล้านยูโร , เคลาดิโอ บราโว่ 18 ล้านยูโร , โนลิโต้ 18 ล้านยูโร , มาร์ลอส โมเรโน่ 5.5 ล้านยูโร , เคโรนิโม รูญี่ 4.7 ล้านยูโร , โอเล็กซานเดอร์ ซินเช็นโก้ 2 ล้านยูโร , ปาโบล มารี 200,000 ยูโร

1610

โรนัลด์ คูมัน กุนซือของเอฟเวอร์ตัน ออกมายกย่องฟอร์มในครึ่งหลังของลูกทีมในเกมที่บกไปตบซันเดอร์แลนด์แดดิ้นถึงถิ่น 3-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดมันเดย์ ไนท์

เกมที่สนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ "แมวดำ"ที่แม้สภาพทีมจะขาดผู้เล่นตัวหลักไปหลายคน แต่ยังต้านทีมเยือนไหวในครึ่งแรก และเสมอกันไปก่อน 0-0

พอครึ่งหลังคูมันจัดการแก้เกมนิดหน่อย ก่อนที่จะมาสัมฤทธิ์ทันทีในนาทีที่ 60 จากการทำประตูด้วยการโหม่งของโรเมลู ลูกากู

ถัดจากนั้นภายในเวลาแค่ 11 นาที ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมก็มาบวกเพิ่มอีก 2 ลูก เป็นแฮททริคของเขาในเกมนี้ ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะได้สำเร็จ 3-0 พร้อมกับเก็บสามคะแนนเต็ม ทะยานขึ้นอันดับที่สามของตารางอีกด้วย

หลังเกมคูมันยอมรับว่าเขาไม่พอใจกับผลงานในครึ่งแรกของลูกทีม แต่ยังดีที่ครึ่งหลังนั้นพากันเล่นได้เข้าฝัก

"ผมผิดหวังมากกับ 45 นาทีแรก มันไม่ใช่เอฟเวอร์ตันที่ผมอยากจะเห็น เราเสียบอลง่ายๆ กันหลายลูก เราเล่นกันด้วยความยากลำบาก แต่ในครึ่งหลังนั่นแหละคือสิ่งที่ผมอยากจะเห็น" เขาเริ่ม

"ผมไม่เคยสงสัยในตัวเขาเลย สองลูกที่โรเมลูยิงได้ในทีมชาติเบลเยี่ยมนั้นช่วยสร้างความมั่นใจให้เขา เขาเก่งอย่างไม่น่าเชื่อเลย ผมบอกกับเขาว่าคำตอบที่ดีที่สุดคือผลงานในสนาม"

"ผมคิดว่าเราจะเป็นหนึ่งในทีมที่สู้เพื่อสิทธิ์ในการไปเล่นฟุตบอลยุโรปนะ นั่นเป็นเป้าหมายที่แท้จริง ถ้าเราเล่นเหมือนในครึ่งแรกเราน่าจะจบไม่อันดับ 13 ก็ 14 ผู้เล่นน่ะพวกเขาไม่ได้โง่หรอกนะ พวกเขารู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้" เขาทิ้งท้าย

1611

ปีเตอร์ เช็ค นายทวารเฮดการ์ดยอมรับ อาร์เซน่อล ผลงานต่ำกว่ามาตรฐานไม่สมกับที่แฟนบอลคาดหวังเอาเสียเลย แต่เชื่อเวลาผ่านไปจะค่อยๆดีขึ้น

"ปืนใหญ่" เริ่มต้นประเดิมสนามซีซั่นใหม่พ่ายคาบ้านต่อ ลิเวอร์พูล 3-4 ก่อนบุกยันเสมอแชมป์เก่า เลสเตอร์ ซิตี้ ตามด้วยเก็บชัยนัดแรกเหนือ วัตฟอร์ด และเพิ่งชนะในบ้านเฉือน เซาแธมป์ตัน หืดจับ 2-1 ท่ามกลางเหตุการณ์ดราม่าได้จุดโทษทดเวลาบาดเจ็บ

"ผมคิดว่าเรายังไม่เต็ม 100 เปอร์เซนต์ เกมของเราไม่ไหลลื่นอย่างที่มันควรจะเป็น" เช็คยอมรับกระแสด้านลบจากแฟนบอลผ่านหนังสือพิมพ์รายวันชื่อดัง ลอนดอน อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด

"แต่ผมคิดว่าเราได้ผลการแข่งขันอย่างที่เราต้องการ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดเหนือกว่าฟอร์มการเล่น ต่อให้เล่นดีถ้าไม่ชนะก็หมดความหมาย"

"บางครั้งเมื่อคุณเล่น คุณรู้ไม่มีอะไรเป็นใจอย่างที่คุณต้องการ คุณจำเป็นต้องพยายามหาวิธีชนะแม้อาจไม่สวยงามก็ตาม"

"แน่นอนเรายินดีกับ 3 คะแนน เราควรมองเกมต่อเกม ผมคิดว่าเราจะค่อยๆดีขึ้นในแต่ละวันที่ผ่านไป"

1612

 ฮริสโต้ สตอยช์คอฟอดีตตำนานนักเตะ"ต่างดาว"บาร์เซโลน่าเชื่อมั่นว่าลิโอเนล เมสซี่สตาร์เบอร์หนึ่งประจำทีมจะโชว์ฟอร์มได้ดีกว่าเก่าในฤดูกาลนี้

สตอยช์คอฟเชื่อว่าเมสซี่ได้แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่จะนำเขาก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว

แม้ว่าบาร์เซโลน่าจะทำผลงานน่าขายหน้าปราชัยต่ออลาเบสคาบ้านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแต่สตอยช์คอฟยังคงมีความมั่นใจในตัวดาวเตะวัย 29 ปีที่ไม่ได้เป็นตัวจริงในเกมดังกล่าว

"แน่นอนว่าเขาจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในปีนี้"สตอยช์คอฟกล่าว

"เขาดูเปลี่ยนไปตั้งแต่กลับมาจากโคปา อเมริกา เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมต่อมากับอาร์เจนติน่า เขาสุดยอดมากระหว่างช่วงปรี-ซีซั่นและในแกมเปอร์ โปรฟี่ด้วย"

"ทีมสมบูรณ์และเมื่อมันเป็นเช่นนั้น เมสซี่ก็อยู่เหลือคนอื่นๆทั้งหมดจริงๆ"

สำหรับรางวัลบัลลงดอร์ สตอยช์คอฟแสดงความคิดเห็นว่า"เมสซี่ก็คือเมสซี่ เนย์มาร์และซัวเรซเข้าไปลุ้นรางวัลเช่นเดียวกับคริสติอาโน่ โรนัลโด้ มันขึ้นอยู่กับการโหวตของผู้คนแล้ว"

1613

 มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวยิงตัวใหม่ของนีซ โชว์ฟอร์มสุดหรูหลังได้ลงเล่นเป็นเกมแรกให้กับต้นสังกัดและยิงได้ 2 ประตู ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะโอลิมปิก มาร์กเซย 3-2

ศึกลีกเอิง เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าถิ่นนีซจัดการส่งกองหน้าจอมเกรียนลงเล่นเปิดตัวเป็นเกมแรก และเขาก็ไม่ทำให้ทีมผิดหวังหลังจากซัดจุดโทษให้ทีมขึ้นนำในนาทีที่ 7 ของการแข่งขัน

ก่อนที่ทีมเยือนจะมาได้สองประตูจากฟลอริยง โธแว็งและบาเฟติมบี้ โกมิส(จุดโทษ) แซงขึ้นนำ 2-1 และเหลือเวลาอีกไม่ถึง 20 นาที

อย่างไรก็ตามบาโลเตลลี่ก็มาทำประตูที่สองของเขาจากลูกโหม่งในนาทีที่ 78 ช่วยให้ทีมตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่พวกเขาจะแซงนำในนาทีที่ 87 จากวีแลน ซิเปรียน และเอาชนะไปได้ 3-2 ในที่สุด

ชัยชนะในเกมนี้ทำให้นีซขึ้นไปอยู่อันดับที่ 2 ของตารางหลังจากลงเล่นไป 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 เป็นรองโมนาโกแค่ลูกได้เสียเท่านั้น

นอกจากนี้การยิงสองประตูในเกมนี้ยังถือว่าเป็นการทำประตูในลีกได้มากกว่า 1 ลูกเป็นครั้งแรกของบาโลเตลลี่นับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-2014 ที่เขาทำไป 14 ประตูให้กับเอซี มิลานอีกด้วย

สำหรับบาโลเตลลี่นั้นเพิ่งย้ายจากลิเวอร์พูลไปอยู่กับนีซแบบไม่มีค่าตัวในช่วงเดดไลน์ตลาดซื้อขายที่ผ่านมา หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในถิ่นแอนฟิลด์และไม่มีอนาคตในแผนของกุนซือใหม่อย่างเยอร์เก้น คล็อปป์

แข้งวัย 26 ปี ได้ออกมาเผยว่าการย้ายไปร่วมทีม"หงส์แดง"นั้นถือเป็นเรื่องพลาดที่สุดในชีวิตการค้าแข้ง

"การไปร่วมทีมลิเวอร์พูลนั้นเป็นการตัดสินใจที่แย่ที่สุดในชีวิตของผมเลย นอกจากแฟนบอลที่น่าอัศจรรย์กับผู้เล่นบางคนที่ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วยแล้ว ผมไม่ชอบตัวสโมสร" เขาบอกกับ Canal+

"ผมมีโค้ชสองคนที่ลิเวอร์พูล ร็อดเจอร์สกับคล็อปป์ในช่วงสั้นๆ ผมไม่ชอบวิธีการและบุคลิกส่วนตัวของพวกเขา อยู่ที่นั่นผมไม่เคยรู้สึกดีจริงๆเลย"

"ยกตัวอย่างนะ ผมไม่มีมีอะไรเหมือนอย่างซลาตัน(อิบราฮิโมวิช)เลย คุณจับสิงโตมาประจันหน้ากับซลาตัน เขาก็น่าจะยังใจเย็นได้อยู่ ถ้าคุณให้คุณดีๆมาอยู่รอบตัวเขา เขาก็ยังนิ่งได้ นั่นแหละตัวเขา"

"แต่ผมต้องการอะไรที่ผ่อนคลายและรายล้อมด้วยสิ่งที่ดีสำหรับผมมากกว่านั้น"

นอกจากนี้เขายังพูดถึงความทะเยอทะยานที่ต้องการคว้าตำแหน่งบัลลงดอร์ในอนาคตอีกด้วย

"การจะคว้าบัลลงดอร์มันไม่ช้าเกินไปสำหรับผมหรอก" เขาเสริม

"ผมว่าถึงตอนนี้ผมน่าจะได้มันมาก่อนแล้วด้วย แต่ยังไงก็ตามผมก็ยังสามารถคว้ามันมาได้ภายใน 2-3 ปี ด้วยการทำงานหนักและมีความจริงจัง"

"สองปีที่ผ่านมาจริยธรรมการทำงานของผมเพิ่มขึ้นจาก 10 ไปเป็น 80 เปอร์เซนต์ ผมเริ่มทำงานหนักมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา" เขาทิ้งท้าย

1614

 วินเซนโซ่ มอนเตลล่ากุนซือของเอซี มิลานยอมรับว่าทีมขึ้นเกมบุกได้ไม่รวดเร็วพอและไม่ค่อยมีโชคซักเท่าไหร่ภายหลังจากโดนอูดิเนเซ่ยิงให้ปราชัยในช่วงท้ายเกม 1-0

ลูกยิงแฉลบของสติเป เปริซาในนาทีที่ 88 ทำให้อูดิฯเป็นฝ่ายบุกมาเอาชัยชนะได้และยังเป็นการเก็บชัยชนะนัดแรกได้หลังมาเยือนซาน ซิโร่และไม่ชนะมาแล้ว 9 เกมติดต่อกัน

มิลานครองเกมเป็นส่วนใหญ่ในนัดนี้แต่พวกเขากลับทำได้ไม่ดีพอในการจบสกอร์ซึ่งลงเอยที่ตรงกรอบแค่ 2 หนกับอีกจังหวะยิงของโฮเซ โซซ่าที่ซัดไปชนคานในครึ่งแรก

มอนเตลล่ารู้สึกว่าทีมของเขาไม่ค่อยมีโชคแต่ก็ยอมรับว่าทำเกมบุกกันได้ไม่ดีพอที่จะคว้าสามแต้มในเกมนี้หลังจากนัดก่อนก็ต้องพ่ายให้นาโปลีมา 4-2 ก่อนพักเบรคให้เกมทีมชาติ

"เราไม่ได้แฮปปี้กับผลการแข่งขันเลยและมันทำให้รู้สึกขมขื่น"มอนเตลล่าบอกกับมีเดียเซ็ท พรีเมียม

"มันเป็นเกมที่ยากลำบาก เราเจอกับอูดิเนเซ่ที่เล่นรับกันลึกมากและเราก็พบว่าการเปลี่ยนจังหวะความเร็วของเกมเป็นเรื่องยาก เราทำกันได้ดีไม่พอแต่มาแพ้เอาท้ายเกมก็เป็นเรื่องย่ำแย่อย่างแท้จริง เราโชคไม่ค่อยดี"

"มันน่าเสียดายเพราะพอเราเอาชนะไม่ได้แล้วมันก็สำคัญที่จะต้องไม่แพ้ เราต้องทำให้ดีกว่านี้ มันเป็นการออกสตาร์ทที่โอเคนะแต่เราสร้างโอกาสไม่มากพอ ในเกมแบบนี้คุณต้องการช่วงเวลาที่โชคดี เหมือนอย่างที่อูดิเนเซ่ดี"

"ในด้านริมเส้นเราอาจทำได้ดียิ่งกว่านี้ เราขึ้นบอลกันไม่รวดเร็วพอ ในช่วงครึ่งแรกพอมีบางสิ่งที่ดีอยู่ มันแค่น่าเสียดายที่เรายิงประตูกันไม่ได้"

1615

 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เชื่อมั่นว่าเรอัล มาดริดจะสามารถคว้าแชมป์ลา ลีก้าไปครองได้ในฤดูกาลนี้ รวมถึงต้องการคว้าทุกแชมป์เท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย

"ราชันชุดขาว"คว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายเมื่อฤดูกาล 2011-2012 ซึ่งหลังจากนั้น 4 หนพวกเขาปล่อยให้คู่แข่งอย่างบาร์เซโลน่า(3) และแอตเลติโก้ มาดริด(1) แบ่งกันไปเชยชม

อย่างไรก็ตามในช่วงเริ่มซีซั่นใหม่นี้ทีมแชมป์เก่าอย่างบาร์ซ่านั้นดันพลาดสะดุดแพ้ไปแล้ว 1 นัด แถมเป็นการแพ้ในบ้านต่อทีมน้องใหม่อย่างเดปอร์ติโว่ อลาเบสอีกด้วย

ด้านทีม"ตราหมี"ยิ่งแล้วใหญ่สองนัดแรกทำได้เพียงเสมอกับทีมน้องใหม่ แต่ยังดีที่สามารถคืนฟอร์มได้ในเกมล่าสุดที่บุกไปเอาชนะเซลต้า บีโก้ 4-0

เรอัล มาดริดนั้นเป็นทีมเดียวในลีกที่ออกสตาร์ทชนะรวดสามนัด แถมเกมล่าสุดเพิ่งจะได้โรนัลโด้กลับมาลงเล่นและเขาก็ช่วยยิงเปิดหัวให้ทีมเอาชนะโอซาซูน่าไปได้ 5-2 อีกด้วย

สตาร์ชาวโปรตุเกสออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าทีมของเขาสามารถก้าวไปคว้าแชมป์ลีกได้ในซีซั่นนี้ หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลได้ดี

"ผมอยากจะคว้าทุกแชมป์ที่เป็นไปได้ และแชมป์ลา ลีก้ายิ่งดีเลย" เขาบอกกับนักข่าว

"มันเป็นแชมป์ที่เราตั้งเป้าไว้หลังและตอนนี้ทีมก็กำลังดูดีและแข็งแกร่ง มันก็ยังเป็นการแข่งขันที่ยาวไกล แต่ผมมั่นใจว่าในปีนี้เราจะชนะ"

นอกจากนี้โรนัลโด้ยังพูดถึงเรื่องอนาคตของเขาในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบวอีกด้วย หลังจากในช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่าเขาเตรียมเซ็นสัญญาใหม่กับทีมออกไป

"ตอนนี้ผมนึกอะไรไม่ออกนอกจากการค้าแข้งกับเรอัล มาดริดเลยะ ที่นี่คือสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเหล่าผู้เล่นที่ดีที่สุดก็อยู่ที่นี่ สิ่งที่ผมต้องการจริงๆ ก็คือมุ่งไปข้างหน้าและจบอาชีพค้าแข้งที่นี่" เขาทิ้งท้าย

1616

อันโตนิโอ คอนเต้ นายใหญ่เชลซี ออกมาแสดงความผิดหวังแบบสุดๆ ด้วยการบอกว่าทีมของเขาเสียไปเปล่าๆ สองแต้มในเกมที่บุกไปเสมอกับสวอนซี 2-2

เกมพรีเมียร์ลีก คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่สนามลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม "สิงห์บลูส์"ได้ประตูออกนำไปก่อนในครึ่งแรกจากดิเอโก้ คอสต้า นาทีที่ 18

ก่อนที่เจ้าถิ่น"หงส์ขาว"จะได้ประตูตีเสมอในาทีที่ 59 จากจุดโทษของกิลฟี่ ซิกูร์ดสสัน ถัดจากนั้น 3 นาทีพวกเขาก็แซงนำได้สำเร็จจากการฉกบอลไปยิงเลรอย เฟอร์

อย่างไรก็ตามจังหวะนั้นถือว่ามีปัญหาพอสมควรเพราะหากว่ากันตามตรงแล้วแข้งชาวดัตช์ไปแซะฟาวใส่แกรี่ เคฮิลล์ชัดเจนก่อนจะเอาบอลเข้าไปยิงเป็นประตู

หลังเกมคอนเต้ออกมาบอกอ้อมๆว่าทีมของเขาเสียเปล่าไปสองคะแนนในเกมนี้ แต่ก็เป็นตำหนิลูกทีมว่าไม่ยอมปิดเกมให้ได้ในตอนที่มีโอกาสจนสุดท้ายต้องมาผิดหวังแบบนี้

"มันก็ค่อนข้างลำบากนะที่ให้พูดถึงเกมเพราะเราเสียไปเปล่าๆสองคะแนน" คอนเต้ให้วัมภาษณ์หลังเกม

"เราครองเกมได้หมดและนำอยู่ 1-0 แถมยังสร้างโอกาสยิงลูกที่สองที่สามได้อีกด้วย"

"มันก็น่าเสียดายนะเพราะเมื่อคุณมีโอกาสที่จะฆ่าให้ตายคุณต้องฆ่าให้ได้"

"ผมไม่อยากจะไปพูดถึงการตัดสิน(ในลูกที่สองของสวอนซี)แต่ผมว่ามันเป็นการตัดสินที่แย่ของกรรมการ" เขาทิ้งท้าย

แม้เชลซีไม่ถึงกับแพ้เพราะคอสต้ามายิงอีกประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้ายช่วยให้ทีมเสมอไป 2-2 แตาก็ถือว่าเสียหายพอสมควรเพราะพลาดโอกาสทำคะแนนทาบกับจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ชนะมา 4 นัดรวด

เกมต่อไปเชลซีต้องกลับไปเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการไปเยือนของลิเวอร์พูลในคืนวันศุกร์นี้

1617

 "สิงห์ไฮโซ"เชลซีหวังขายเชสก์ ฟาเบรกัสมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนไปให้กับสโมสรในต่างแดนตอนช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวปีใหม่นี้

ตามการรายงานข่าวจาก เดลี เอ็กซ์เพลส สื่อชื่อดังแดนผู้ดีระบุว่าดาวเตะวัย 29 ปีพร้อมสู้เพื่อตำแหน่งในทีมแต่ดูเหมือนจะยังไม่เข้าตาอันโตนิโอ คอนเต้เทรนเนอร์คนใหม่ที่สั่งให้เขาเพิ่มความขยันมากขึ้นนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม

คอนเต้พร้อมรับฟังข้อเสนอจากสโมสรในต่างแดนสำหรับฟาเบรกัสแต่มันเป็นที่ชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการปล่อยตัวนักเตะไปให้กับทีมคู่แข่งร่วมศึกพรีเมียร์ ลีก

อย่างไรก็ตามอดีตดาวเตะบาร์เซโลน่าและอาร์เซน่อลได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในอิตาลีเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาและเอซี มิลานเองก็ยังคงหวังเซ็นสัญญากับเขา

ทว่าทีมแชมป์เก่าสคูเด็ตโต้อย่างยูเวนตุสก็เกาะติดสถานการณ์ของนักเตะอย่างใกล้ชิดและแน่นอนว่าพวกเขาจะเป็นคู่แข่งของมิลานในการยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวฟาเบรกัส

1618

คริสติอาโน่ โรนัลโด้สตาร์ดังหมายเลขหนึ่งของ"ราชันชุดขาว"เรอัล มาดริดกระตุ้นฟลอเรนติโน่ เปเรซประธานสโมสรให้มอบสัญญาใหม่ยาว 10 ปีมาให้กับเขา

โรนัลโด้กลับมาลงสนามให้เรอัล มาดริดได้อีกครั้งและทำประตูเปิดหัวช่วยทีมไล่ถล่มโอซาซูน่าแบบไม่ไว้หน้า 5-2 เมื่อคืนที่ผ่านมา

หลังเกมดังกล่าว โรนัลโด้ก็ถูกนักข่าวเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับอนาคตของเขาและเจ้าตัวก็ให้คำตอบกลับมาอย่างชัดเจน

"ผมไม่รู้ คุณจะต้องไปคุยกับประธานสโมสร สิ่งต่างๆกำลังไปได้สวย สื่อเขียนอะไรกันไปมากมายและบางทีคุณอาจจะรู้มากกว่าสิ่งที่ผมทำเสียอีก"โรนัลโด้กล่าว

"หากผมเป็นประธานสโมสร ผมจะให้สัญญายาวกับผม 10 ปี"

"ในตอนนี้การรีไทร์กับสโมสรคือทั้งหมดที่ผมเห็นในอนาคตของตัวเอง มันคือสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุด นี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและมันควรจะมีนักเตะที่ดีที่สุด"

1619

ทัพอาซูลกรานาพลาดสามแต้มในคัมป์นูแบบไม่น่าเชื่อ หลังชะล่าใจดร็อป เมสซี และ ซัวเรซ เป็นแค่สำรอง จนโดนทีมน้องใหม่บุกมาขโมยชัยชนะได้ถึงถิ่น

หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือเจ้าบ้าน ตัดสินใจส่งสามผู้เล่นใหม่อย่าง แยสเปอร์ ซิลเลสเซน, ลูคัส ดีญ และ ปาโก้ อัลกาเซร์ ลงเล่นเป็นตัวจริงในลาลีกาให้ต้นสังกัดใหม่นัดแรก รวมถึงยังได้แนวรุกตัวเก่งอย่าง เนย์มาร์ กลับมาจากการรับใช้ทีมชาติบราซิลทั้งชุด U23 และชุดใหญ่อีกด้วย

ด้านทีมเยือนของ เมาริซิโอ เปเยกริโน ที่ยังไม่ชนะใคร แต่ก็ยังไม่แพ้ใครเช่นกัน จากการเสมอมาในสองนัดแรก เลือกจัดทัพมาเน้นเกมรับแบบเต็มสูบในระบบ 5-4-1 ทิ้งดาวยิงชาวบราซิเลียนอย่าง เดย์แวร์สัน ไว้เป็นกองหน้าตัวเป้าและความหวังในแนวรุก

เกมในช่วง 45 นาทีแรกแม้ว่าบาร์ซาจะครองบอลบุกได้มากกว่า แต่กลับเป็นอลาเบสที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ ในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ กิโก้ เฟเมเนีย เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาให้ เดย์แวร์สัน เข้าฮอร์สด้วยการใช้เท้าซ้ายจิ้มระยะเผาขนเข้าไปตุงตาข่าย ส่งให้น้องใหม่ออกนำในครึ่งแรก 1-0

ออกสตาร์ตครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้น ทัพอาซูลกรานาก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ เนย์มาร์ เปิดให้ เฌเรมี มาติเยอ เทกตัวโขกเข้าไป ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 1-1

แต่แล้วในนาทีที่ 64 อลาเบสก็กลับมาทำประตูขึ้นนำได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ อิไบ โกเมซ ลากลุยแหวกแนวรับบาร์ซาในเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยขวาผ่านมือ ซิลเลสเซน เข้าไปอย่างเด็ดขาด ช่วยให้ทีมเยือนออกนำอีกหนที่ 2-1

หลังจากนั้นแม้ว่าเจ้าบ้านจะส่งบรรดาตัวหลักที่วันนี้เป็นแค่สำรองอย่าง ลิโอเนล เมสซี, อันเดรส อิเนียสต้า และ หลุยส์ ซัวเรซ ลงมาเพื่อหวังพลิกเกมกลับมาตามตีเสมอได้อีกรอบเป็นอย่างน้อย แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ส่งผลให้สุดท้ายจบเกมกลายเป็นอลาเบสที่บุกมาเอาชนะไปได้แบบพลิกล็อค 2-1

1620

 โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าทีมโชว์ฟอร์มในครึ่งแรกได้อย่างย่ำแย่ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมตำหนิลูกทีมบางรายโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง

ปีศาจแดง พ่ายคารังต่อ เรือใบสีฟ้า 1-2 โดยทีมเยือนขึ้นนำไปก่อนสองประตูจาก เควิน เดอ บรอยน์ และ เคเลซี อิเฮียนาโช ก่อนที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จะมายิงตีตื้นในช่วงท้ายครึ่งแรกแต่ก็ไม่ทัน ซึ่งกุนซือโปรตุเกสยอมรับว่าทีมของตนเริ่มเกมได้ไม่ดี จนเป็นเหตุให้เสียสองประตูและพ่ายไปในที่สุด

"ผมคิดว่าครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ดีกว่าเรามาก เราออกสตาร์ทได้แย่มาก" มูรินโญ กล่าวกับผู้สื่อข่าว "เราเริ่มเกมโดยมีนักเตะบางรายเล่นได้ต่ำกว่าฟอร์มปกติมาก ทั้งในแง่ของความเข้มข้นของเกม และการรับมือความเร็วของเกมลักษณะนี้"

"ผมมีนักเตะสองหรือสามคนที่ถ้าผมรู้ว่าเขาจะเล่นได้แบบนี้ ผมจะไม่ส่งพวกเขาลงสนามแน่นอน แต่นี้แหละคือฟุตบอล บางทีนักเตะก็ทำให้ผู้จัดการทีมผิดหวัง บางครั้งเขาก็ทำให้คุณเซอร์ไพรส์"

"พวกเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมต้องการ แต่มันก็เป็นความผิดของผมด้วย ผมเป็นผู้จัดการทีม มันต้องเป็นความผิดของผมเสมอ เพราะผมเป็นคนเลือกพวกเขาลงสนาม"

หน้า: 1 ... 106 107 [108]