ไบรห์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน หลายเป็นทีมแรกจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกเป็นทีมแรก หลังจากที่เกมล่าสุดเปิดบ้านเฉือนวีแกน แอธเลติก 2-1เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ลีกรองของอังกฤษ มีโปรแกรมลงเล่นนัดที่ 43 ครบทุกคู่ ซึ่งความน่าสนใจคือการที่จ่าฝูงอย่างไบรห์ตันมีลุ้นที่จะเลื่อนชั้นอัตโนมัติหลังจบเกมหากพวกเขาเอาชนะได้ และผลคู่อื่นเป็นใจ
ปรากฎว่าพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะวีแกนไปได้ก่อน 2-1 โดยได้ประตูจากเกล็น เมอร์เรย์ และ ซอลลี่ มาร์ช แม้จะโดนทีมเยือนไล่ตีตื้นในช่วงท้ายเกมจากนิค พาวล์ ก็ตาม
งานพวกเขาจบแค่นั้นและต้องลุ้นในคู่ที่เตะทีหลังของทีมอันดับที่สามอย่างฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ที่ออกไปดาร์บี้ เคาน์ตี้ ซึ่งหากทีมเยือนไม่สามารถเอาชนะได้จะทำให้ไบรห์ตันแต้มขาดและเลื่อนชั้นทันที
ซึ่งก็เข้าทางไบรห์ตันเพราะดาร์บี้ฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ในบ้าน หลังยิงตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 88 ส่งผลให้จ่าฝูงไบรห์ตันเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกทันทีแม้จะเหลือเกมให้เล่นอีก 3 นัดก็ตาม แถมยังเป็นการขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี และครั้งแรกนับตั้งแต่ใช้ชื่อว่าพรีเมียร์ลีก
ไบรห์ตันนั้นเกือบจะกระเด็นตกนอกลีกเมื่อปี 1997 แต่น่าเหลือเชื่อว่าอีก 20 ถัดมาพวกเขาจะเลื่อนขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ
งานต่อไปของพวกเขาคือแย่งแชมป์กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อีกทีมที่จ่อจะเลื่อนชั้นเช่นเดียวกัน ตอนนี้ลูกทีมของราฟา เบนิเตซ ตามหลังจ่าฝูง 7 คะแนน และนำพื้นที่เพลย์ออฟ 6 คะแนน
"สาลิกาดงขออีกเพียง 4 แต้มก็จะการันตีจะตามหลังไบรห์ตันเลื่อนชั้นทันที ส่วนอันดับที่ 3-6 ที่เป็นพื้นที่เพลย์ออฟนั้นเป็นการชิงชัยของ 5 ทีม เรดดิ้ง, ฮัดเดอร์สฟิลด์, เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์, ฟูแล่ม และ ลีดส์ ยูไนเต็ด
ส่วนโซนตกชั้นนั้นโรเธอร์แฮม ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยร่วงตั้งแต่ไก่โห่นานแล้ว ที่เหลือยังต้องลุ้นกันไประหว่างวีแกน, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, เบอร์มิ่งแฮม, เบอร์ตัน อัลเบี้ยน, หรือแม้แต่ทีมอันดับที่ 17 ของตารางอย่าง ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส ก็ตาม