เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น



ข่าว: SMF - Just Installed!




เชียร์บอล

ผู้เขียน หัวข้อ: อิบราฮิม่า โคนาเต้ ..เขาเป็นใคร..  (อ่าน 633 ครั้ง)

BigBoss555

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9665
    • ดูรายละเอียด
อิบราฮิม่า โคนาเต้ ..เขาเป็นใคร..
« เมื่อ: 03 มิถุนายน 2021 »

  หลังฤดูกาลจบเพียงไม่กี่วัน ลิเวอร์พูล แก้ไขปัญหาเรื้อรังที่เกาะกินมาตลอดด้วยการประกาศเซ็นสัญญาคว้าตัว อิบราฮิม่า โคนาเต้ กองหลังเลือดฝรั่งเศสจาก อาร์แบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์

แม้มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้จนคลิปเช็กฟอร์มของแนวรับที่อายุเต็ม 22 ปีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมว่อนยูทูปแต่ เดอะ ค็อป หลายคนก็ไม่คิดว่าสโมสรจะเซ็นสัญญาไวขนาดนี้

เป็นการเสริมทัพในแบบ “หงส์แดง” ยุคใหม่นับตั้งแต่เหตุการณ์ “เงิบแดก” ในวันที่ตามตื้อ เวอร์กิล ฟาน ไดจค์ แบบเสียมารยาทจน เซาธ์แฮมป์ตัน ขู่จะเล่นงานเมื่อปี 2017

สังเกตได้ว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ก่อนปรีซีซั่นเพื่อให้แข้งใหม่มาเรียนรู้ศึกษาแท็คติกที่มีรายละเอียดเยอะดังนั้นช่วงตลาดหน้าหนาวถ้าไม่เข้าตาจนจริงๆแทบไม่เกิดขึ้น

ยกเว้นในรายของ VvD ที่รักจริงหวังแต่งมานานหรือ โอซาน คาบัค (ยืม) และ เบน เดวีส์ หลังเซนเตอร์ตัวหลักเจ็บไม่เหลือซักราย

ซีซั่นที่ผ่านมา ลิเวอร์​พูล ใช้งานเซนเตอร์เปลืองสุดขีดถึง 20 คู่และที่น่าตลกคือ โจ โกเมซ และ ฟาน ไดจค์ เป็นคู่ที่เสียประตูมากที่สุด

1 ใน 100 หรือจะบอกว่า 1 ในพันก็ได้ที่เซนเตอร์ตัวจริงเอ็นขาดไปตามๆกันในขณะที่ โจ มาติ๊ป ที่เปราะบางอยู่แล้วก็ทนขีดจำกัดตัวเองไม่ไหว

คุณสมบัติและศักยภาพของ โคนาเต้ ตอบโจทย์ JK เป็นอย่างยิ่งคือ “ถึก” และ “อายุน้อย”

ไลป์ซิก มีสถิติชนะ 67% เมื่อเขาลงสนามโดยถือว่าห่างพอสมควรเมื่อเทียบกับตอนไม่ได้ช่วยทีมที่มีสถิติลดลงเหลือแค่ 52%

ด้วยรูปร่างใหญ่และสูงถึง 194 ซม. (สูงกว่า Vvd 1 ซม.) สถิติชิงลูกโหม่งจึงโดดเด่นถึง 75% ตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุดโดยซีซั่นที่ผ่านมามีแค่ 5 นักเตะใน บุนเดสลีกา เท่านั้นที่มีสถิติดีกว่าเขา

ซึ่งถ้าเอามาเทียบใน พรีเมียร์ลีก เป็นตัวเลขที่สูงลำดับต้นๆเมื่อหันไปหยิบเบอร์ 1 ในรุ่นอย่างแฮร์รี่ แม็คไกวร์ ของ แมนฯยูไนเต็ด (77%) และ รูเบน ดิอาส ของ แมนฯซิตี้ (68%)

ในการรับมือตัวต่อตัวกับพวกสาย speed นั้น โคนาเต้ ปล่อยให้เลี้ยงผ่านเขาไปได้เฉี่ย 0.65 ครั้งต่อเกมแม้ตัวเลขไม่น่าเกลียดอะไรแต่ทั้ง แม็คไกวร์ (0.35) และ ดิอาส (0.54) ทำตรงนี้ได้ดีกว่า

ในส่วนที่ต้องปรับปรุงคือการผ่านบอล จากสถิติผ่านบอลสำเร็จ 86% ถือว่ายังน้อยอยู่หากทีมกับ แม็คไกวร์ ที่ไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องนี้แต่ก็ยังกดไป 90% และ ดิอาส หายห่วงอยู่ที่ 93%

การวางบอลยาว โคนาเต้ ไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ (แม้ในคลิปจะตัดมาแต่วางแม่นๆ) เพราะวางถึงเพื่อนแค่ 65% หรือ 8 หนต่อเกม

ในขณะที่ แม็คไกวร์ 79% และ 11 ต่อเกมและ ดิอาส 84% และ 14 เกม

แต่ที่เราต้องไม่ลืมคือ โคนาเต้ เพิ่งอายุ 22 ปีและใครก็ตามจับคู่กับ VvD เหมือนมี “บัฟ” เพิ่มขึ้นอีก 50% ซึ่งชั่วโมงบินตรงนี้เองที่ทำให้แข้งน้ำหอมจะได้อะไรจากลูกพี่ใหญ่จนพัฒนาตัวเองมากขี้นแน่นอน

ความกังวลใจอีกอย่างของแฟนบอลคือ โคนาเต้ เป็นกองหลังที่เข้าบอลได้เสียและแท็คเกิ้ลแบบไม่ลังเลซึ่งใน พรีเมียร์ลีก มีกองหน้าและปีกที่รอบจัดกว่าใน บุนเดสลีกา หลายคน เราอาจจะได้เห็นช่วงแรกที่น้องอาจจะยังปรับตัวไม่ได้และทำเสียจุดโทษก็เป็นได้



1. ชื่อเล่น “อิบู”

ถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่เด็ก โคนาเต้ มีพี่น้อง 7 คน เกิดที่เขตปกครองย่อยที่ 11 ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องราตรีชอบแวะเวียนมาที่นี่

ตอนเด็กๆแม่เรียกเขาว่า “อิบู” ก่อนที่ต่อมาเพื่อนๆใน ไลป์ซิก จะเอามาล้อว่า “อิบูโพรเฟ่น” (ยาแก้อักเสบ)




2. เคยเล่นกองหน้า
แข้งร่างโย่งก้าวเข้ามาเป็นนักเตะเยาวชนของ ปารีส เอฟซี ตั้งแต่ 10 ขวบจากนั้นอีก 4 ให้หลังก็ตัดสินใจเดินทางเกือบ 500 โลเพื่อมาสานฝันเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ โซโชซ์ ทีมในดิวิชั่น 2 ในปี 2014

ในช่วงแรก โคนาเต้ เล่นกองหน้าก่อนหลังชื่นชอบ ”โด้อ้วน” โรนัลโด้ อดีตหอก บราซิล

อายุ 13 เปลี่ยนมาเล่นมิดฟิลด์และเอาดีตรงนั้นอยู่พักนึงก่อนมาค้นพบตำแหน่งที่ถนัดที่สุดคือกองหลัง




3. ไลป์ซิกได้มาฟรีๆ

ผ่านมา 2 ปีเขาเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกและในฤดูกาล 2016/17 ในวัย 17 ปีเขาก็ได้สัมผัสกับทีมชุดใหญ่ของ โซโชซ์ และในปีนั้นเองได้โอกาสเล่น 12 นัดยิงไป 1 ประตู

ยังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ไม่เท่าไหร่ ไลป์ซิก เห็นแววเลยคว้ามาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวซึ่งเป็นการทำกำไรเนาะๆเกือบ 40 ล้านปอนด์เมื่อขายให้ ลิเวอร์พูล

โคนาเต้ ไม่ต้องรอนานเมื่อเขาได้ลงเล่นในเวที บุนเดสลีกา ในฤดูกาลใหม่ทันทีในวัยเพียงแค่ 18 ปีก่อนพาทีมบุกไปเอาชนะ โคโลญจน์ 2-1

และในซีซั่นนั้นเองแข้งทีมชาติฝรั่งเศสยู-21 ในปัจจุบันลงสนามให้ ไลป์ซิก ไปทั้งสิ้น 16 เกม ที่น่าทึ่งคือหลายเกมที่ โคนาเต้ เบียด วิลลี่ ออร์บาน กัปตันทีมหลุดไปนั่งสำรองอยู่หลายหน

โคนาเต้ ค่อยๆกลืนกินตำแหน่งตัวจริงไปทีละนิดโดยฤดูกาล 2018/19 มีชื่อถึง 27 เกมและทำประตูแรกได้ในเกมที่พบกับ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ และเล่นใน เดเอฟเบ โพคาล ไปอีก 5 นัด

ในฤดูกาลนั้น ไลป์ซิก ได้อันดับ 3 และรองแชมป์บอลถ้วย ด้วยผลงานโดดเด่นจึงได้รับโอกาสในทีมชาติ ฝรั่งเศส ยู-21 ในเดือนพฤษภาคม 2019





4. อาการบาดเจ็บ

หากพูดถึงอาการบาดเจ็บ โคนาเต้ เคยเข้าผ่าตัดตั้งแต่สมัยเล่นให้ โซโชซ์ มาแล้วก่อนเข้ารับผ่าตัดสะโพกอีกหนในฤดูกาล 2019/20

ในระหว่างที่อนาคตกำลังพุ่งขึ้นปัญหาตรงนี้เองทำให้เขาลงสนามน้อยลงเรื่อยๆโดยเล่นไปแคา 8 เกมในฤดูกาล 2019/20 และต้องเจ็บข้อเท้าในซีซั่นที่ผ่านมาจนได้ลงสนามไปแค่ 14 เกม

แต่ 28 เกมหลังสุด ไลป์ซิก ไร้พ่ายเมื่อมี โคนาเต้ ลงสนามเป็นตัวจริงซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงความสำคัญของเขาในทีม





5. รู้จุดอ่อนตัวเอง

โคนาเต้ รู้ว่าต้องเจอกับปัญหาบาดเจ็บรบกวนในช่วง 2 ปีหลังเลยตั้งใจอยากเข้ายิมสร้างกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ

ในขณะที่จุดอื่นๆเขาอยากทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมคือการยืนตำแหน่งซึ่งเกมที่พ่าย ฮอลแลนด์ ในศึกยู-21 เขาก็พลาดตรงนี้ด้วยรวมถึงการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมและการมองภาพรวมในเกมทั้งหมด





6. อดีตโค้ชบอกวันนึงไม่ มาดริด ก็ บาร์ซ่า

ราล์ฟ รังนิค อดีตบอส ไลป์ซิก เผยว่าเขาดีใจมากที่สึดในชีวิตที่สามารถคว้าตัว โคนาเต้ มาร่วมทีมและเชื่อว่าฝีเท้าระดับนี้สามารถเล่นให้กับ 2 ยักษ์แห่งสแปนิชได้สบายๆ

“ผมดีใจเป็นพิเศษกับการเซ็นสัญญาคว้า อิบราฮิม่า โคนาเต้” รังนิค กล่าวเอาไว้เมื่อปี 2019

“เราได้เขาจาก โซโชซ์ แบบไร้ค่าตัว”

“เขาฝีเท้าดีถึงขนาดวันนึงสามารถย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า ได้เลยล่ะ”




7. มีความมั่นใจในตัวเองสูง

หลายๆคนเชื่อว่า โคนาเต้ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นซุปตาร์ในอนาคตได้ในขณะที่เจ้าตัวเองก็รู้ว่ากว่าจะไปถึงจุดนั้นคงต้องปากกัดตีนถีบอีกเยอะ

“ในฟุตบอล, มันไม่มีเคล็ดลับอะไรหรอก ถ้าคุณตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของคุณและวางเป้าหมาย แน่นอนผมคิดว่าผมทำได้”

“ผมหวังว่าทุกๆอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวผม ไม่ใช่ใครอื่นใด”

โคนาเต้ มีคติประจำใจที่ชอบอย่างนึ่ง : “ไม่ใช่ทุกๆคนที่ขยันแล้วสำริจผลแต่ที่แน่ๆคนประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่ขยัน”




8. ไม่หวั่นย้ายถิ่นฐาน

หลังย้ายจาก​ โซโชซ์ ไป ไลป์ซิก ในปี 2017 โคนาเต้ มีปัญหาในเรื่องการปรับตัวกับประเทศที่ไม่คุ้นเคย

แม้กระทั่งตอนเล่นให้ ไลป์ซิก ยู-19 แต่ด้วยความที่เป็นคนจิตใจแกร่งจึงทำให้ก้าวข้ามอุปสรรคที่ว่านั้นมาได้และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว


9. มี “รามอส” เป็นไอด้อล

แม้ เดอะ ค็อป ยังไม่ลืมวีรกรรมของ แซร์คิโอ รามอส แต่ โคนาเต้ ไม่เคยปิดบังเลยว่าแข้งวัย 35 ปีคือคนที่เขาชื่นชอบมากที่สุด

ครั้งหนึ่งแข้งป้ายแดงของ ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์กับรายการ UMM เขาเอา รามอส ไปเปรียบเทียบกับตัวละครอย่าง เบจิต้า ในเรื่อง Dragon Ball Z ซึ่งเป็นมังงะที่เขารักมากเลยทีเดียว

นอกจากนี้ โคนาเต้ ยังศึกษาการเล่นของทั้ง เคราร์ด ปิเก้ และ ซามูเอล อุมติตี้ อีกด้วยเช่นกัน




10. อย่างถึก

เวลา โคนาเต้ อยู่ในสนามจะดูตัวใหญ่กว่านักเตะทุกคนในสนามเพราะนอกจากความสูงถึง 194 ซม. แล้วยังมีความหนาถึกจนสะดุดตา

แข้งวัย 22 ปีเป็นหนึ่งในเซนเตอร์แบ็คที่แกร่งที่สุดใน บุนเดสลีกา แต่สิ่งที่ทำให้เขาดูน่ากลัวยิ่งกว่าการวิ่งไล่กวดภัยคุกคามในพื้นที่หวงห้ามที่เขาดูแลอยู่

ด้วยเหตุนี้เองจึงมีแฟนบอลหลายคนเอาเขาไปเปรียบเทียบกับ ฟานไดจค์ พี่เบิ้มเบอร์ 1 ในแนวรับของ “หงส์แดง” คู่หู่ใหม่

ในขณะที่เกม ฟีฟ่า 21 ค่าความแข็งแกรงอยู่ที่ 83 และ แท็คเกิ้ลอยู่ที่ 85


บทสรุป...


โคนาเต้ จะเป็นอนาคตของ ลิเวอร์พูล อย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อทั้ง ฟาน ไดจค์ และ มาติป ที่จะอายุ 30 ปีในกลางเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้

การแย่งตำแหน่งคู่เซนเตอร์ในฤดูกาลใหม่จึงน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าตำแหน่งอื่นๆและนั่นหมายความว่าผลงานของ “หงส์แดง” จะดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน...