หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือบาร์เซโลน่าออกมาบอกว่าประตูสุดท้ายในเกมสุดยอดของการคัมแบ็คชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง 6-1 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมานั้น เกิดจากกองเชียร์ทุกคนที่ส่งใจให้จากทั่วโลกเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สองที่สนามคัมป์ นู ทีม"ต่างดาว"ที่บุกแพ้ที่ฝรั่งเศสแบบยับเยินในเกมแรก 4-0 ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้อย่างดีหลังออกนำไปก่อน 2-0 จากหลุยส์ ซัวเรซ และการยิงตัวเองของเลย์แว็ง คูร์กซาว่า
แถมเริ่มครึ่งหลังมาพวกเขายังได้จุดโทษของลิโอเนล เมสซี่ ยิงหนี 3-0 นาทีที่ 50 ถึงตรงนี้พวกเขาต้องการประตูเดียวเพื่อเสมอ แต่นาที 62 มาโดนเอดินสัน คาวานี่ ซัดอเวย์โกลไล่มา 3-1
เกมเลยมาถึงช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนทดเวลา บาร์ซ่าที่ร่อแร่จะตกรอบอยู่แล้วมาได้ประตูปลุกความหวังในนาทีที่ 88 จากฟรีคิกของเนย์มาร์ ซึ่งนั่นทำให้พวกเครื่องติดบุกหนักจนมาได้อีกลูกของเนย์มาร์จากจุดโทษ ก่อนที่สุดท้ายแซร์กี้ โรแบร์โต้ จะซัดประ 6-1 ในนาที 90+5 แซงสกอร์รวม 6-5 เข้ารอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ
"มีหลายอย่างเกิดขึ้น คีย์หลักคือความศรัทธาของทีม เราดูเหมือนจะตกรอบแล้วในช่วงนาทีที่ 84" เอ็นริเก้บอกกับนักข่าวหลังเกม
"เรายิงในทุกจังหวะ แม้แต่ผู้รักษาประตูก็ขึ้นหน้าเพื่อไปยิงประตู จากนั้นก็มายิงประตูที่ 6 ได้โดยกองเชียร์บาร์ซ่าทุกคนในโลก"
"ผมอยากจะย้ำถึงคนที่มีศรัทธาในตอนที่เราแพ้มา 4-0 ว่านี่คือสิ่งที่มอบให้พวกเขา เพราะเราไม่ใช่ทีม Harlem Globe Trotters (ทีมบาสโชว์) นี่คือฟุตบอล"
"ผมไม่คิดว่าว่ามีใครจะหยุดเชื่อมั่นนะ ทีมเล่นได้น่าประทับใจ เราเสี่ยงมากๆและก็สมควรที่ได้มา ผลแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ในฟุตบอลแต่วันนี้เป็นเราที่ได้สัมผัสมัน"
นอกจากนี้เขาบอกกับ Mediaset ว่า "มันเป็นคืนที่เหลือเชื่อ เราชนะในเกมที่ผมคิดว่ามันเป็นไม่ไม่ได้ ตอนที่พวกเขายิงไล่มา 3-1 มุนดูเหมือนจะจบแล้ว แต่ช่วงท้ายเกมนั้นสุดยอดมาก เราแฮปปี้มากๆ"
"เมื่อคุณมีทีมแบบนี้ที่สร้างขึ้นจากแชมเปี้ยนส์ที่คว้ามาแล้วทุกถ้วย อะไรก็เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว"