เดลี่ เมลสื่อดังแดนผู้ดีรายงานว่าโจเซ่ มูรินโญ่ยังได้รับการหนุนหลังจากเจ้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่โปรแกรมอีก 7 นัดถัดไปจะเป็นสิ่งสำคัญในการชี้ชะตาอนาคตของเขาแมนฯ ยูไนเต็ดคว้าชัยชนะในโอลด์ แทรฟฟอร์ดไม่ได้มานับตั้งแต่พ้นเกมเปิดฤดูกาลและผลเสมอ 0-0 กับบาเลนเซียในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อวันอังคารก็ช่วยตอกย้ำความผิดหวังของการออกสตาร์ทซีซั่นให้มากขึ้น
พวกเขาจะเจอกับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดในสุดสัปดาห์นี้และในขณะที่ความพ่ายแพ้แบบยับเยินอาจทำให้เกิดผลลัพธ์อีกอย่างตามมา แต่สื่อเจ้าดังรายงานว่าโปรแกรมนัดถัดๆไปซึ่งรวมถึงการเจอกับยูเวนตุสสองหน, เชลซีและแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะชี้ชะตาว่าซื้อเวลาได้อีกหน่อยหรือโดนปลดออกจากทีม
ตอนนี้"ปีศาจแดง"หาชัยชนะไม่เจอมา 4 เกมติดต่อกันในทุกรายการ ซึ่งรวมถึงการตกรอบคาราบาว คัพด้วยฝีมือของดาร์บี้และพ่ายให้กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1
ความสัมพันธ์ของมูรินโญ่กับปอล ป็อกบาเองก็กำลังตึงเครียด ในขณะที่อันโตนิโอ วาเลนเซียขอโทษหลังกดไลก์โพสต์อินสตาแกรมที่สนับสนุนการปลดกุนซือชาวโปรตุเกสพ้นตำแหน่ง
นอกจากนี้ยังเป็นทราบว่านักเตะซีเนียร์ในทีมรายอื่นไม่พอใจในสถานการณ์ แต่ตั้งใจจะแก้ไขหลายสิ่งให้ถูกต้องภายใต้การคุมทีมของมูรินโญ่
แหล่งข่าวอ้างว่า "ตระกูลเกลเซอร์ไม่ใช่พวกทำอะไรโดยไม่คิดและไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อน พวกเขาตระหนักว่าหลายๆสิ่งไม่ดำเนินไปด้วยดีและพวกเขารู้ว่าหลายๆสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง"
"พวกเขายังรู้ว่านี่เพิ่งเข้าเดือนตุลาคมและยังมีเกมให้ลงสนามอีกหลายนัด ถ้าหากนิวคาสเซิ่ลบุกมาเอาชนะ, สัก 3-0 แล้วกัน, นั่นก็อาจเป็นจุดจบแต่พวกเขาน่าจะพิจารณาสถานการณ์หลังผ่านเกมเจอซิตี้เสียมากกว่า"
"ถ้าหลายๆสิ่งเป็นไปด้วยดีโจเซ่จะอยู่จนพ้นคริสต์มาส"
ตระกูลเกลเซอร์ยังติดต่อกับเอ็ด วูดเวิร์ดผู้บริหารของสโมสรอยู่ทุกวัน พวกเขาใช้วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ติดตั้งอยู่ในสนามซ้อมแคร์ริงตันเพื่อพูดคุยกับวูดเวิร์ดและมูรินโญ่
เกมพบกับแมนฯ ซิตี้จะลงเล่นกันวันที่ 11 พฤศจิกายนและให้หลังจากนั้นพวกเขาจะไม่มีโปรแกรมลงสนามจนกว่าจะเจอคริสตัล พาเลซในวันที่ 24 พฤศจิกายน
