ฟอร์มอันย่ำแย่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการออกสตาร์ทซีซั่นนี้ไม่ได้ช่วยให้กลุ่มทุนที่สนใจซื้อสโมสรยอมอัพข้อเสนอเพื่อไปให้ถึงราคาที่ ตระกูลเกลเซอร์ ต้องการพวกเขาเก็บไปเพียงแค่ 6 คะแนนจาก 5 นัดแรกทำให้ทีมของ เอริค เทน ฮาก รั้งอันดับ 13 ในตารางเวลานี้และส่งผลถึงมุมมองที่มีต่อทีม หลังคนคาดหวังว่าปีนี้พวกเขาจะก้าวขึ้นมาแข่งขันกับทีมหัวแถวได้มากยิ่งขึ้น
การเจรจาซื้อขายสโมสรของกลุ่มทุนที่สนใจยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งรวมถึงสองตัวเต็งอย่าง ชีค จัสซิม บิน ฮาหมัด อัล ทานี จากกาตาร์และ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เศรษฐีชาวสหราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตามเหตุผลสำคัญที่การซื้อขายสโมสรยังไม่เกิดขึ้นแม้เริ่มกระบวนการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเดือนก่อน คือยังไม่มีฝั่งไหนหาข้อตกลงในเรื่องราคาได้
ทั้งสองกลุ่มทุนต่างยื่นข้อเสนอให้ประมาณ 5 พันล้านปอนด์ แต่ ตระกูลเกลเซอร์ พยายามเรียกราคาให้สูงกว่านั้นอีก
แล้วถึงแม้องค์ประกอบหลักๆของธุรกิจสโมสรยังคงแข็งแรง แต่ฟอร์มน่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ไม่ได้ช่วยโน้มน้าวให้กลุ่มทุนต้องเร่งรีบในการอัพข้อเสนอของพวกเขาเลย
เดลี่ เมล อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่าฟอร์มอันน่าผิดหวังของ "ปีศาจแดง" ที่แพ้ไปแล้ว 3 จาก 5 เกมแรกในลีกนั้นไม่ได้คลาดสายตาของกลุ่มทุนที่สนใจ
ผลงานน่าผิดหวังในการเริ่มต้นซีซั่นนี้เป็นตัวชี้ให้เห็นว่าการสร้าง แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาแข็งแกร่งคืองานใหญ่ขนาดไหนและต้องใช้เงินลงทุนเยอะขนาดไหนเพื่อพาทีมกลับไปแข่งขันแข่งขันได้ทั้งในลีกรวมถึงเวทียุโรป
แล้วถึงแม้รายได้หลักของสโมสรจะไม่สะเทือน แต่คนที่เกี่ยวข้องก็มองไม่เห็นสิ่งที่จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนความคิดไปจากที่ว่าราคาที่ยื่นให้นั้นถือเป็นมูลค่าที่ดีมากแล้วสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด
นอกจากนี้มุมมองที่ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงขาขึ้นภายใต้การคุมทีมของ เทน ฮาก หลังคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกและได้แชมป์คาราบาว คัพซีซั่นก่อนนั้นก็โดนตั้งคำถาม
ปัญหานอกสนามอย่างเรื่องของ แอนโทนี่ และ เจดอน ซานโช ก็ยิ่งช่วยให้บรรยากาศของทีมในเวลานี้ไม่สู้ดี
ตอนนี้การประกาศหาผู้ร่วมลงทุนหรือขายสโมสรของ ตระกูลเกลเซอร์ ก็ใกล้จะครบปีเต็มทนแต่ก็ยังไม่มีการประกาศความคืบหน้าอย่างเป็นทางการออกมาเลย
