เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น



ข่าว: SMF - Just Installed!




เชียร์บอล

ผู้เขียน หัวข้อ: ชุดขาวหืดจับ! แรงปลายพลิกเฉือนสปอร์ติ้งหวิว 2-1  (อ่าน 1045 ครั้ง)

Bigballs

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1620
    • ดูรายละเอียด

ราชันชุดขาวประเดิมคว้า 3 คะแนนแรกใน UCL ฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ หลังได้ 2 ประตูช่วงท้ายเกมจากซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสและหัวหอกชาวสแปนิช พลิกเฉือนสปอร์ติ้งท้ายเกม 2-1

ฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ในกลุ่มเอฟ ที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว เรอัล มาดริด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน

ทีมแชมป์เก่า ภายใต้การคุมทีมของซีเนดีน ซีดาน กุนซือชาวฝรั่งเศส ไม่มีปัญหาในการจัดตัวผู้เล่น และส่ง 11 ขุมกำลังคนสำคัญลงสนามพร้อมกันถ้วนหน้า ทั้งเซร์คิโอ รามอส, ลูก้า โมดริช, โทนี โครส รวมถึงคู่ 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง คาริม เบนเซมา, แกเร็ธ เบล และคริสเตียโน โรนัลโด้ ในระบบ 4-3-3

ขณะที่ทีมเยือนจากโปรตุเกส มาในระบบ 4-4-2 มี รุย ปาทริซิโอ, วิลเลียม คาวัลโญ, อาเดรียน ซิลวา 3 สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสเป็นหัวใจสำคัญ โดยมี บาส โดส และไบรอัน ลุยซ์ เป็นคู่หัวหอกในแดนหน้า ขณะที่โจเอล แคมป์เบลล์ และลาซาร์ มาร์โควิช 2 แข้งตัวยืมจากอาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล พร้อมลงสนามในฐานะแข้งตัวสำรอง

เริ่มเกมได้ 1 นาที ทีมเยือนได้โอกาสทักทายก่อน จากลูกยิงนอกเขตโทษของบรูโน เซซา สุดท้ายบอลหลุดนอกกรอบไปเอง จากนั้นโอกาสทักทายหนสองของสปอร์ติ้งเกิดขึ้นนาทีที่ 8 โดยเกลสัน ที่ได้ซัดบอลจนกีโก้ กาซิยา ต้องออกแรงป้องกัน

โอกาสทักทายครั้งแรกของแชมป์เก่าเกิดขึ้นนาทีที่ 27 โดยคริสเตียโน โรนัลโด ที่ได้ซัดบอลระยะไกล จนปาทริซิโอต้องออกแรงเซฟ

ตลอดช่วงเวลาในครึ่งแรก ทั้งสองทีมมีโอกาสครองบอลสูสีกัน และมักอาศัยความผิดพลาดของคู่แข่งในการอาศัยการโจมตีโต้กลับใส่ แต่ท้ายที่สุดยังไม่มีประตู หมดครึ่งแรกสกอร์ 0-0

เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที สปอร์ติ้งพลิกขึ้นนำมาดริดไปก่อน 1-0 จากจังหวะอาศัยการต่อบอลชิ่งกันของลุยซ์กับบรูโน เซซา จนบอลไปติดรามอสกระดอนมาเข้าเท้าบรูโน เซซา ก่อนที่เจ้าตัวจะได้โอกาสซัดหนีมือกาซิยาเข้าประตู ในนาทีที่ 48

ถัดมาอีก 11 นาที ฮอร์เก้ เฆซุส กุนซือของสปอร์ติ้ง ไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ที่ตัดสินใจแจกใบเหลืองให้กับวิลเลียม คาวัลโญ ทำให้ผู้ตัดสินไม่รีรอที่จะตัดสินใจไล่เจ้าตัวห้ามคุมทีมข้างสนามทันที

หลังเสียประตู มาดริดเดินหน้าบุกใส่ทีมเยือนอย่างหนัก เพื่อหวังทวงประตูตีเสมอ แต่ต้องชมบรรดาแนวรับของสปอร์ติ้ง ที่มีสมาธิช่วยกันสกัดเกมบุกทุกรูปแบบของเจ้าถิ่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการสกัดลูกเตะมุมของโทนี โครส ของบาส โดส ในนาทีที่ 69, รูเบน เซเมโด้เคลียร์ลูกโยนของลูคัส บาซเกวซ นาทีที่ 71

นาทีที่ 76 มาดริด หวิดได้ประตูตีเสมออีกครั้ง เมื่อลูคัส บาซเกวซ บรรจงเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวามาให้ ดาเนียล การ์บาฆาล ได้ตวัดยิงในเขตโทษ แต่บอลกลับโด่งข้ามคานออกไป รวมถึงโอกาสอีกครั้งของโรนัลโด้ ที่ซัดไปชนเสาอย่างจังในนาทีที่ 83

กระทั่งนาทีที่ 89 ความพยายามของเจ้าถิ่นมาประสบความสำเร็จ 1-1 จากลูกฟรีคิกนอกเขตโทษของคริสเตียโน โรนัลโด้ ที่ปาทริซิโอ พยายามพุ่งปัดแต่ไม่สำเร็จ บอลลอยเช็ดเสาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

จากนั้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90 มาดริดได้ประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จากลูกโขกของอัลบาโร โมราต้า จากการเปิดของฮาเมส โรดริเกวซ จนแล้วจนรอดไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลาการแข่งขัน เรอัล มาดริดเปิดบ้านเฉือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-1 ประเดิมคว้า 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ